กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
นิสสัน ประเทศไทย นำนักศึกษาไปเยี่ยมชมชุมชนเพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์สิ่งของเหลือใช้และนำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถขายได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ" ที่เกิดขึ้นเป็นปีที่สอง
นิสสัน ได้ร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อทำงานร่วมกับชุมชนปากน้ำปราณ ชุมชนประมงที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอปราณบุรี ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำปราณบุรีซึ่งไหลลงสู่อ่าวไทย เพื่อคัดแยกสิ่งของเหลือใช้ที่สามารถนำสร้างสรรค์เพื่อแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาขายใหม่ได้
นิสสัน นำนักศึกษาชั้นปีที่ หนึ่งจำนวน 72 คนและนักศึกษาปีที่สองจำนวน 8 คนพร้อมด้วยอาจารย์ จารุพัชร อาชวะสมิต อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เดินทางไปยังปากน้ำปราณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพบปะและทำงานร่วมกับชาวบ้านท้องถิ่นที่ประกอบอาชีพการเกษตรและการประมง เพื่อแยกของเหลือใช้ที่สามารถนำมาผลิตเป็นสิ่งของที่สามารถขายได้
"เป้าหมายของเราคือการแบ่งปันภูมิปัญญาและคำสอนของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ โดยการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน โดยการ 'ให้' กลับคืนไปสู่ชุมชน" ปีเตอร์ แกลลี รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว "เราเชื่อว่าความคิดริเริ่มนี้จะสร้างรายได้และปรับปรุงความเป็นอยู่ของชุมชนโดยรวมให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้รักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาดและปลอดภัยสำหรับทุกคนในอนาคต"
"โครงการนี้ส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงแก่นักศึกษา นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักศึกษาและชุมชนปากน้ำปราณที่จะเรียนรู้ธรรมชาติร่วมกัน นักศึกษาจะเก็บข้อมูลและสำรวจทรัพยากรในชุมชน จากนั้นเสนอการออกแบบผลิตภัณฑ์จากของเหลือใช้ในชุมชน จากนั้นชุมชนจะแสดงความคิดเห็นและแนะนำ นักศึกษาจะปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพวกเขา จนในที่สุดเราก็จะมีสินค้าที่ชุมชนสามารถผลิตได้ และพวกเขาจะสามารถสร้างรายได้พร้อมทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" จารุพัชร กล่าวเสริม "ปากน้ำปราณเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นชุมชนที่มีของเหลือใช้มาจากแม่น้ำและทะเล ทำให้มีวัสดุที่สามารถนำไปสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนำกลับมาใช้ใหม่"
นักศึกษาจะระดมความคิดและออกแบบผลิตภัณฑ์โดยอิงจากการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนและดูว่ามี ของเหลือใช้อะไรบ้างสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีดีไซน์ที่สวยงาม (upcycle) และสามารถจำหน่ายได้จริง ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดจะได้รับการคัดเลือก และนักศึกษาจะถ่ายทอดวิธีการทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้กับชุมชนท้องถิ่น
"ผมมีความยินดีที่นิสสัน และนักศึกษาได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมนี้" ศิรวุฒิศ ดอนจินดา ประธาน วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยว ปากน้ำปราณ กล่าว "สมาชิกจากหกชุมชนในและรอบ ๆ ปากน้ำปราณได้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ อาชีพหลักของชุมชนคือการเกษตรและการประมง การเข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนในการส่งเสริมความยั่งยืนและแนวทางในการพัฒนาชุมชนในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมอีกด้วย"
นิสสันยังคงดำเนินตามคำสอน ภูมิปัญญาและความเอื้ออาทรของพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ความคิดริเริ่มนี้เกิดขึ้นจากแนวคิด 'การให้' อันเป็นอัตลักษณ์หลักของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ เพื่อช่วยส่งเสริมทักษะให้คนในชุมชน สามารถนำไปปรับใช้จนเกิดรายได้ในระยะยาวและยั่งยืน ซึ่งในเวลาเดียวกันช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ" ได้ที่เฟสบุคเพจ แค่ใจก็เพียงพอ by Nissan
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลางNissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com,Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube