กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 25 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,279.50-1,285.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,380 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,340 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.45 น. ของวันที่ 25/01/62)
แนวโน้มวันที่ 28 มกราคม 2562
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐและจีนยังห่างไกลจากการแก้ไขประเด็นทางการค้า แต่มีโอกาสพอสมควรที่ทั้ง 2 ประเทศจะบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐแสดงความเห็นในเชิงบวก โดยระบุว่า สหรัฐและจีนสร้างความคืบหน้าอย่างมากในการเจรจา แต่เขาไม่ได้อธิบายรายละเอียด ความไม่แน่นอนจากประเด็นสงครามการค้า ยังคงกดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่าหากสหรัฐและจีนล้มเหลวในการแก้ไขสงครามการค้า จนถึงวันที่ข้อตกลงระงับสงครามการค้าจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มี.ค. ตลาดหุ้นอาจเผชิญความปั่นป่วน ความกังวลดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ สำนักข่าวเดอะซันรายงานว่า พรรค Democratic Unionist ของไอร์แลนด์เหนือ ตัดสินใจโดยส่วนตัวในการเสนอการสนับสนุนแบบมีเงื่อนไขต่อข้อตกลงเบร็กซิทของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษในในวันที่ 29 ม.ค. ส่งผลให้สกุลเงินปอนด์ของอังกฤษแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ จากความหวังว่า สหราชอาณาจักรอาจหลีกเลี่ยงการเบร็กซิทแบบไร้ข้อตกลงได้ทันเวลาก่อนวันที่ 29 มี.ค. นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าดอลลาร์เทียบกับ 6 สกุลเงินสำคัญยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าลง จนสร้างมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำเพิ่ม เมื่อดอกเบี้ยสัญญาล่วงหน้าคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยตลอดปี 2562 หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการร่วงของสกุลเงินยูโร หลังการแสดงความเห็นเชิงลบของนายมาริโอ ดรากี ประธานกลางยุโรป (ECB) โดยเขายอมรับว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในยูโรโซนมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่คาดหมายจากผลกระทบของปัจจัยต่างๆตั้งแต่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวไปจนถึงเบร็กซิท ทั้งนี้ แนะนำติดตามแถลงการณ์ของนายมาริโอ ในการเป็นพยานต่อรัฐสภายุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ว่าจะมีมุมมองเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนหน้าหรือไม่ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น พร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน โดยหากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,276-1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา ถ้าสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,276-1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,276-1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,265 (18,900บาท) 1,256 (18,800บาท) 1,244 (18,600บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,300บาท) 1,299 (19,450บาท) 1,309 (19,600บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,265 (19,090บาท) 1,256 (18,950บาท) 1,244 (18,780บาท)
แนวต้าน 1,290 (19,470บาท) 1,299 (19,600บาท) 1,309 (19,760บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999