กสิกรไทยตั้งเป้าปี 48 ปล่อยกู้เอสเอ็มอี 3.2 แสนล้าน เพิ่ม 17%

ข่าวทั่วไป Thursday January 27, 2005 14:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--ธ.กสิกรไทย
กสิกรไทยเปิดไต๋ปี 48 เตรียมรุกใหญ่ลูกค้าเอสเอ็มอี เน้นให้บริการคุณภาพหนุนตั้งแต่การผลิตยันส่งออก หวังสร้างรายได้ครบวงจร เฉพาะสินเชื่อตั้งเป้าเพิ่ม 17% โดยกลุ่มก่อสร้าง ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นธุรกิจในดวงใจ พร้อมออกสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ 3 รูปแบบ สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพาณิชยบรรษัทธนกิจ ธนาคาร กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2548 ธนาคารฯ จะยังให้ความสำคัญกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีเป็นอันดับแรกต่อเนื่องจากปี 2547 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก มีโอกาสทางธุรกิจสูงทั้งในด้านการให้บริการสินเชื่อ และบริการทางการเงินอื่น ๆ โดยจะพยายามขยายการให้บริการที่ครบวงจรแก่เอสเอ็มอีมากยิ่งขึ้น
ในปี 2547 ธนาคารสามารถปล่อยกู้ให้ลูกค้าเอสเอ็มอีได้รวม 277,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 50,662 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.33% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้เพิ่ม 15% ทั้งนี้แบ่งเป็นการปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดย่อมที่มียอดขายไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อปี จำนวน 210,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38,663 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.51% และกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางที่มียอดขาย 50-400 ล้านบาทต่อปี จำนวน 67,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,999 ล้านบาท หรือ 21.77%
สำหรับในปี 2548 ธนาคารได้ตั้งเป้าปล่อยกู้ให้ลูกค้าเอสเอ็มอีรวม 325,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.16 % โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีโอกาสเติบโตและขยายการผลิตได้แก่ กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดแวร์ อุตสาหกรรมเคมีและยาง ธุรกิจโรงแรมและบริการ และอุตสาหกรรมด้านการเกษตร
ด้านนายพิพิธ เอนกนิธิ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์สินเชื่อพาณิชย์ธนกิจ ได้เปิดเผยว่า การแข่ งขันในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีจะยังมีสูงทั้งจากธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ของเอกชน สำหรับธนาคารกสิกรไทย จะใช้นโยบายยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เน้นการสร้างความสัมพันธ์และให้บริการที่มีประสิทธิภาพ มีการแบ่งลูกค้าเป็น Sub-Segment เพื่อออกบริการและเสนอบริการให้แก่ลูกค้าให้ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม
ทั้งนี้กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางจะแบ่งเป็น กลุ่มที่มียอดขาย 50-100 ล้านบาท และยอดขาย 100-400 ล้านบาท ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อม จะแบ่งตามประเภทธุรกิจ แล้วออกบริการสินเชื่อเจาะแต่ละกลุ่ม ซึ่งในปีที่แล้วก็มีการออกบริการไปแล้ว เช่น สินเชื่อโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สินเชื่ออุตสาหกรรมแม่พิมพ์ สินเชื่อมินิชอป สินเชื่อเพื่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
ล่าสุดธนาคารได้ออกบริการใหม่ “ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed-rate Loan) “ เพื่อสร้างความมั่นใจและล ดความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตให้กับลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งมี 3 รูปแบบ คือ แบบที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก ที่ 5.0-7.0% หลังจากนั้นคิดอัตราลอยตัว 4 ปี ที่ MLR ถึง MRR+1.5% แบบที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.5 ปีแรก ที่ 5.25-7.25% หลังจากนั้นคิดอัตราลอยตัว 3.5 ปี ที่ MLR ถึง MRR+1.5% แบบที่ 3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ที่ 5.50-7.50% หลังจากนั้นคิดอัตราลอยตัว 3 ปี ที่ MLR ถึง MRR+1.5% ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
นายพิพิธ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ธน คารยังมีเป้าหมายที่จะให้ลูกค้าเพิ่มธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารให้ครบวงจรมากขึ้น โดยเฉพาะบริการเพื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ซึ่งในปีที่แล้วเป็นกลุ่มที่เอสเอ็มอีใช้บริการกับธนาคารขยายตัวสูงถึง 60% บริการจัดการด้านการเงิน (Cash Management) อาทิ การจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร บริการเช็คเรียกเก็บพิเศษ ฯลฯ
นอกจากนั้นธนาคารยังจะเน้นการจัดสัมมนาเพื่อพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ ให้กับเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้เรื่องการจัดการธุรกิจและระบบบัญชีแล้ว ในปีนี้จะเน้นเรื่องการให้เอสเอ็มอีสร้างและบริหารแบรนด์ของตนเอง รวมทั้งพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ส่งออกที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีมีการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวได้
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
รังษี บูรณประภาพงศ์
ฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมงานบริหารองค์การ ธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ 0 2470 2655 โทรสาร 0 2470 2746
e-mail: rungsee.b@kasikornbank.com
www.KASIKORNBANK.com--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ