กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--บีโอไอ
บีโอไอเปิดทริปโรดโชว์แรกรับปี 2562 ร่วมคณะรองนายกรัฐมนตรี โรดโชว์ 3 จังหวัดของญี่ปุ่น ทั้ง โอซากา วากายามา และเกียวโต เตรียมเปิดเวทีสัมมนาย้ำศักยภาพประเทศไทย พร้อมนัดหารือบริษัทชั้นนำประจำจังหวัด ดึงผู้ผลิตเครื่องมือเพทย์ ขยายการลงทุนมาไทยเพื่อเปิดตลาดอาเซียน
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2562 บีโอไอจะจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ อาทิ สำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ โดยนับเป็นการจัดโรดโชว์การลงทุนในต่างประเทศครั้งแรกของ บีโอไอในปี 2562
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและคณะที่ร่วมเดินทางจะเข้าร่วมกิจกรรมใน 3 จังหวัดสำคัญของเขตคันไซ ได้แก่ โอซากา วากายามา และเกียวโต โดยปัจจุบันคันไซเป็นศูนย์กลางทางการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีบริษัทขนาดใหญ่ และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งด้านไบโอเทคโนโลยี ยา อุปกรณ์การแพทย์ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน เช่น ลิเธียมไอออน เซลล์เชื้อเพลิง เซลล์แสงอาทิตย์ เป็นต้น รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางการวิจัยและพัฒนาของเขตคันไซ
โอกาสนี้บีโอไอ จะจัดสัมมนาหัวข้อ "Thailand: Advancing ASEAN-Japan Partnership" ในวันที่ 31 มกราคม 2562 ณ นครโอซากา เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ประกอบการของโอซากา และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมงานสัมมนากว่า 500 คน โดยรองนายกรัฐมนตรี จะกล่าวปาฐกถาพิเศษเพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาคในทุกมิติทั้งการค้าและการลงทุน การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ที่มีมาอย่างยาวนาน และการบรรยายพิเศษ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากนี้ในงานสัมมนายังมีเวทีเสวนาของบีโอไอ และ สกพอ. เพื่อย้ำให้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเห็นถึงโอกาสในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะปี 2562 รัฐบาลประกาศให้เป็นปีแห่งการลงทุน โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากสิทธิประโยชน์พื้นฐานสำหรับการลงทุนภายในปีนี้
นางสาวดวงใจ กล่าวว่า ภายหลังการสัมมนา รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมพบหารือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของทั้ง 3 จังหวัด อาทิ สมาชิกหอการค้าโอซากา (The Osaka Chamber of Commerce and Industry: OCCI) และสมาพันธ์เศรษฐกิจคันไซ (Kansai Economic Federation: Kankeiren) การพบหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดวากายามะและจังหวัดเกียวโต เยี่ยมชมโครงการแปรรูปเกษตรผ่านการใช้ระบบไอซีที และแหล่งผลิต "เครื่องเขิน" ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาชุมชนที่ประสบความสำเร็จของจังหวัดวากายามะ โดยที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้เคยหารือเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการตลาดระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดวากายามะแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมหารือแบบรายบริษัท (One–on–One Meeting) กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในพื้นที่จังหวัดเกียวโต ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเครื่องจักรและการผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัด และทันตกรรมที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างตัดสินใจขยายธุรกิจ ในอาเซียน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด และการพบหารือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ยานยนต์รายสำคัญ ซึ่งประสบปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน เป็นต้น
"เป้าหมายหลักของการจัดโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น นอกจากการจัดสัมมนาสร้างความมั่นใจในนโยบายส่งเสริมการลงทุนและศักยภาพของประเทศแล้ว รัฐบาลยังมุ่งสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ในระดับท้องถิ่นไปพร้อมกันด้วย เพราะในแต่ละจังหวัดจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทเอสเอ็มอี รวมถึงสตาร์ทอัพ ที่มีศักยภาพสูงแตกต่างกัน ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศที่ต้องการให้เข้ามาลงทุน โดยผลจากการจัดโรดโชว์ครั้งนี้ มั่นใจว่าจะช่วยขยายความร่วมมือทางด้านการลงทุน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันร่วมกันต่อไป" นางสาวดวงใจ กล่าว