กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
ก.ล.ต. อนุมัติ บมจ. โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ ( GSC ) ผู้ให้บริการธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้ เสนอขายหุ้นIPO จำนวน 90 ล้านหุ้น ล่าสุดบอร์ด ACAP ไฟเขียวให้สิทธิผู้ถือหุ้น ACAP จองซื้อหุ้น IPO ของ GSC ในอัตราส่วน 12 หุ้นสามัญ ACAP ต่อ 1 หุ้นสามัญของ GSC จากการเสนอขายผู้ถือหุ้นของ บมจ. เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) จำนวนไม่เกิน 27 ล้านหุ้น และเสนอขายประชาชนทั่วไป จำนวนไม่เกิน 63ล้านหุ้น ด้าน ผู้บริหาร "สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี" เผยเตรียมขึ้นเครื่องหมาย XB วันที่ 7 ก.พ.62 พร้อมกำหนดวันที่ 8 ก.พ.62 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของ ACAP ที่มีสิทธิจองซื้อหุ้น IPO ของ GSC พร้อมระดมทุน ขยายสาขา กรุงเทพ-ต่างจังหวัด และปรับปรุงพัฒนาอุปกรณ์ และระบบเทคโนโลยี เพิ่มเสริมศักยภาพการให้บริการแข็งแกร่ง
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC ผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล (Call Center Service) และธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ (Collection Service) เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทฯได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 36 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วงต้นปี 2562
สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ส่วนโดยจะมีการเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของ บมจ. เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวนไม่เกิน 27 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายในครั้งนี้ และเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป จำนวนไม่เกิน 63 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขาย
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 125 ล้านบาท และทุนที่เรียกชำระแล้ว จำนวน 80 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 159.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 99.99% ซึ่งภายหลังจากเสนอขาย IPO จำนวน 90 ล้านหุ้นแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ ACAP จะลดลงเหลือ 64%
ด้าน นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ในฐานะบริษัทแม่ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ( 25 ม.ค. ) มีมติกำหนดสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ GSC ในอัตราส่วน 12 หุ้น ACAP ต่อ 1 หุ้นสามัญของ GSC และขึ้นเครื่องหมาย XB ในวันที่ 7 ก.พ.62 พร้อมกำหนดวันที่ 8 ก.พ.62 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของ ACAP ที่มีสิทธิจองซื้อหุ้น IPO ของGSC
สำหรับ GSC มีจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์การทำงาน มากว่า 14 ปี โดยมีการให้บริการแก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในหลากหลายภาคธุรกิจ อาทิ กลุ่มธุรกิจการเงิน สื่อสารโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการให้บริการลูกค้าด้วยรูปแบบการบริการที่ยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองและคำนึงถึงประโยชน์ และความต้องการที่ลูกค้าจะได้รับมากที่สุด
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้สำหรับการขยายสาขา รวมถึงปรับปรุง พัฒนาอุปกรณ์ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ใช้ในการดำเนินงาน และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ตามแผนขยายงานในอนาคต โดยเฉพาะการขยายสาขาทั้งภายในกรุงเทพ และต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มกำลังการให้บริการ และเป็นการกระจายความเสี่ยงทั้งในด้านของการจัดหาพนักงาน และการเป็นศูนย์การให้บริการสำรอง (Back-up Site) ในกรณีที่สาขาอื่นๆ เกิดเหตุที่ไม่สามารถทำงานได้ โดยบริษัทฯ จะจัดตั้งขยายสาขาในกรุงเทพเพิ่มเติมอีก 1 สาขา คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งสูงสุด 300 ที่นั่ง และมีแผนขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัด อีก 2 สาขา อาทิ ราชบุรี และสุพรรณบุรี เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ ระบบปฏิบัติการ Avaya ระบบปฏิบัติการ 3CXระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการของบริษัทฯให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแผนการขยายงานดังกล่าว จะเป็นการสอดรับกับนโยบาย และวิสัยทัศน์ ของบริษัทฯที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำ การให้บริการงาน Outsource ต่างๆ ที่ครบวงจร ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า GSC มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการตามงบการเงินเฉพาะกิจการ จำนวน 105.83 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 4.58 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 135.38ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 24.89 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 151.53 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 26.16 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกปี 2561 มีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 114.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8.90 ล้านบาท ทั้งนี้ GSC เชื่อมั่นว่า ด้วยวิสัยทัศน์และศักยภาพ จะสามารถนำพา GSC ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างแน่นอน