กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งไฟลิ่ง "วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์" ในวันที่ 29ม.ค. 2562 เรียบร้อยแล้ว ลุยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เดินหน้าขาย IPO 280 ล้านหุ้น กางแผนระดมทุนขยายกองเรือ ซ่อมบำรุงตามแผน รวมถึงชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ ไฟลิ่ง ของ VL ในวันที่ 29 ม.ค. 2562 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย VL วางแผนเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 280 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย VL จำนวน 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ จำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้
ทั้งนี้บริษัทยังวางแผนระดมทุนในการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ เพื่อลงทุนขยายกองเรือ โดยการลงทุนซื้อเรือดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการต่อเรือใหม่ หรือการซื้อเรือมือสองเพื่อนำมาให้บริการ อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาสถานการณ์ และสภาวะตลาดในขณะนั้นควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งรวมต่อปี
ทั้งจากการเพิ่มปริมาณขนาดบรรจุขนส่งต่อเที่ยวเรือและเพิ่มจำนวนเที่ยวเรือ นอกจากนี้ยังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปซ่อมบำรุงตามแผน รวมถึงชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ขณะที่นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL กล่าวเสริมว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยเป็นการขนส่งทางทะเล ซึ่งสินค้าหลักแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์ม
อีกทั้งบริษัทมีการให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับบริษัทคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันเป็นหลักซึ่งต้องการผู้ให้บริการขนส่งทางเรือที่มีมาตรฐานสูง โดยในปัจจุบันบริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 12 ลำ ซึ่งกองเรือมีอายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี ซึ่งติดอันดับ 3 ของประเทศ ประกอบกับยังมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 35,081 เดทเวทตัน (DWT) และมีความสามารถในการบรรจุน้ำมันเพื่อขนส่งรวมอยู่ที่ 36,036 ลูกบาศก์เมตร
"นอกจากแผนการระดมเพื่อเสริมการเติบโตทางธุรกิจแล้ว บริษัทยังมองการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในเส้นทางอื่น พร้อมกับแผนขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมกันนี้เรายังบริษัทมีวิสัยทัศน์เพื่อเป็นบริษัทเรือที่เป็นเลิศเรื่องคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ ด้านธุรกิจการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย โดยมีจุดประสงค์การดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์สุจริต และยึดมั่นในหลักธรรมภิบาล รวมทั้งมีการให้บริการที่มีคุณภาพ ด้วยมาตรฐานด้านความปลอดภัย ประกอบกับการพัฒนาบุคคลากรที่มีคุณภาพและประสบการณ์ เพื่อปฏิบัติการอย่างมืออาชีพ" นางชุติภา กล่าว