กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--โอกิลวี่
ภาครัฐและเอกชนไทยดัน Android สุดตัว หวังผลักดันนักพัฒนาโปรแกรมมือถือเข้าสู่ตลาดโลก ร่วมก่อตั้ง Android Thailand Social Network เกิดชุมชนสนับสนุนระยะยาว ประเดิมจัดสัมมนาและบิสซิ เน็ตเวิร์คช็อปให้ทันส่งชิงเงิน 10 ล้านเหรียญของกูเกิ้ล ซอฟต์แวร์พาร์คพร้อมให้โควต้าเข้าโครงการบ่มเพาะทางธุรกิจเต็มตัว
นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือซอฟต์แวร์พาร์ค เปิดเผยว่า ทางซอฟต์แวร์พาร์คได้ร่วมมือกับภาคธุรกิจอันได้แก่ บริษัท เอไอเอส, ดีแทค, ทรูมูฟ และโมโตโรล่า ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือชื่อดัง ในการร่วมจัดตั้งโครงการ Android Thailand Social Network ที่มุ่งหวังจะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์มือถือของไทยก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลก และเกิดสังคมเครือข่ายของผู้มีความรู้และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่สังคมการค้าในขั้นต่อไป
โดยโครงการ Android Thailand Social Network เกิดขึ้นเนื่องจากทาง Google ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ได้ออกชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) บนระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ชื่อ Android ของตนเองขึ้นมา โดยมีพันธมิตรทางด้านโทรศัพท์มือถือเข้าร่วมจำนวนมาก เพราะคาดว่าต่อจากนี้ไปแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือจะได้รับความนิยม และมีอัตราการขยายตัวอย่างมากในเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะการเร่งโตของ Google ที่มอบรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันส่งโปรแกรมที่ทำงานบน Android เข้าประกวดในเดือนมีนาคมนี้ มีรางวัลสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 340 ล้านบาท
“ทางซอฟต์แวร์พาร์คเห็นว่า ระบบปฏิบัติการ Android เป็นโอกาสใหม่ของนักพัฒนาไทยในการส่งผลงานของตนเองเข้าสู่ตลาดโลก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่กำลังเกิดมาตรฐานใหม่บนโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่มีการปิดตัวเองจากระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์มือถือรายใหญ่บางราย และการเริ่มต้นนี้นักพัฒนาทั่วโลกมีระยะเวลาที่เท่ากันไม่มีผู้ใดได้เปรียบเสียเปรียบ” นางสุวิภา กล่าวและว่า
“ดังนั้นซอฟต์แวร์พาร์คจึงระดมผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายพันธมิตรในธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันก่อตั้งโครงการ Android Thailand Social Network ขึ้นมา เพื่อหวังเป็นเวทีถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และความช่วยเหลือด้านต่างๆ ให้กับนักพัฒนากลุ่มนี้ที่กำลังเข้าไปเจาะตลาดโลกของกับไทยในอนาคตอันใกล้”
สำหรับแผนงานของโครงการ Android Thailand Social Network นั้น จะเริ่มจากการจัดสัมมนาในวันที่ 30 มกราคมนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมที่สนใจในระบบปฏิบัติการ Android ในช่วงเริ่มต้นประมาณ 80 ราย ในครั้งนี้จะมีการประเมินความสามารถ และตั้งทีมทำงานขึ้นมาอย่างเป็นทางการ เพื่อจัดทำโครงการ Business Workshop ในวันที่ 8 และ 15 กุมภาพันธ์ 2551 ที่อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค เพื่อสร้างผลงานและกลั่นกรองความคิดก่อนที่จะส่งโปรแกรมเข้าประกวดในเดือนมีนาคม โดยกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งจะนำประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้มาร่วมแบ่งปันเพื่อสร้างโอกาสให้กับนักพัฒนามากขึ้น
หลังจากนั้นซอฟต์แวร์พาร์คจะคัดเลือกผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจหรือ Incubator โดยทางซอฟต์แวร์พาร์คจะสนับสนุนทั้งความรู้ทางด้านการทำธุรกิจ สถานที่ และการทำการตลาด ต่างๆ ให้อย่างเต็มที่ จำนวน 10 ราย ต่อจากนั้นหากผลงานเสร็จสิ้นผู้เข้าร่วมโครงการยังสามารถเจรจาธุรกิจโดยตรงกับผู้ก่อตั้งโครงการในการนำไปเป็นธุรกิจได้เลยทันที
คาดว่าภายในปีนี้ โครงข่ายของ Android Thailand Social Network จะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของตลาดทั่วโลกที่ถีบตัวสูงขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าไทยจะมีกลุ่มนักพัฒนาระดับเขียนโปรแกรม Android มากกว่า 300 ราย ซึ่งตรงกับทิศทางการพัฒนาไอทีของซอฟต์แวร์พาร์คในปีนี้ที่จะมุ่งเน้นให้เกิด Software Engineer ในจำนวนที่มากขึ้น
นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการสำนักการตลาด บริการสื่อสารไร้สาย เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เรามีนโยบายในการให้การสนับสนุนและสร้างนักพัฒนาโปรแกรมบนมือถือมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักพัฒนาเหล่านี้ได้มีโอกาสเปิดตัวโชว์ผลงานและความสามารถให้โลกได้เห็น สำหรับโครงการAndroid Thailand Social Network นี้ ถือเป็นโครงการที่ดีและมีคุณค่ามาก โดยเอไอเอสเองก็มี Knowledge เกี่ยวกับการพัฒนา Application ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งความเข้าใจในพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า มาแบ่งปันและแนะนำให้นักพัฒนาฯ รุ่นใหม่ได้เรียนรู้และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ผลงานของตนเองต่อไป ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า นักพัฒนาฯ ชาวไทย ก็มีศักยภาพและความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าต่างชาติเลยทีเดียว”
นายอมฤต ศุขะวณิช ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มเน็กซ์ ดีแทค บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าดีแทคมีความยินดีที่จะสนับสนุนโครงการ Android Thailand Social Network เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ยุคการพัฒนาแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ และซอฟต์แวร์ด้านไอทีอย่างเต็มตัวแล้ว ดูได้จากอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะบริการประเภท social networking ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีในประเทศไทยจึงควรให้การส่งเสริมอย่างยิ่ง
ดังนั้นจึงควรให้ความสนใจในการพัฒนาบุคคลากรด้านไอทีเพื่อมารองรับตลาดที่กำลังขยายตัว โดยเชื่อว่าองค์ประกอบของการพัฒนาบุคลากรไอทีไทยมาจากปัจจัยหลัก คือ องค์กรที่มีศักยภาพที่จะสนับสนุนการผลิตซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นที่มีคุณภาพ และบุคลากรวงการไอทีต้องมีทักษะความเชี่ยวชาญในระดับมาตรฐานสากล ดีแทคมีความมุ่งหวังว่าโครงการ Android Thailand Social Network ที่เกิดจากความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาการเติบโตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์มือถือของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนผลักดันให้เกิดโครงการที่ดีในวงการนี้ต่อไปอีกในอนาคต โดยดีแทคมีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านแอพพลิเคชั่นในระดับสากล และมุมมองด้านการพัฒนาตลาดซอฟต์แวร์บนโทรศัพท์มือถือเข้าร่วมให้ประสบการณ์กับนักพัฒนาที่ร่วมในโครงการนี้
นายพีระพล ฉัตรอนันทเวช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการร่วมโครงการครั้งนี้ว่า “โมโตโรล่าร่วมสนับสนุนการพัฒนาระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือแบบ open source มาโดยตลอดและเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มพันธมิตร Open Handset Alliance ซึ่งให้การสนับสนุนโครงการ Android ในระดับนานาชาติ เราจึงส่งเสริมการพัฒนาโครงการ Android ในประเทศไทยอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเราในอนาคตก็จะยึด Android เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลัก เพื่อมุ่งเน้นการเชื่อมโยงบริการและคอนเทนต์ต่าง ๆ จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ไร้สายเข้าด้วยกัน ซึ่งจะตอบสนองความต้องการและสร้างประสบการณ์ในการสื่อสารให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด”
นายพิชิต ธัญโยดม ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีมัลติมีเดีย บริษัท ทรู มูฟ จำกัด กล่าวว่า ทรูมูฟยินดีที่ได้เป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Android Thailand Social Network ซึ่งเป็นการส่งเสริมนักพัฒนาโปรแกรมของไทยให้ได้แสดงศักยภาพและยกระดับความสามารถของคนไทยเพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยทรูมูฟมีความรู้ ความชำนาญในการสร้างสรรค์และพัฒนา Application รวมถึง Content ที่หลากหลาย ตรงใจไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งจะเป็นแนวทางให้นักพัฒนาฯได้นำไปประยุกต์ใช้กับแนวคิดของตนเองได้เป็นอย่างดี ความร่วมมือในโครงการนี้ทรูมูฟมั่นใจว่าจะสร้างนักพัฒนาโปรแกรมรุ่นใหม่และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้กลุ่มทรูยังได้ให้การสนับสนุนทางด้านการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านทรูวิชั่นส์ ยูบีซี เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้สนใจอีกทางหนึ่งด้วย