กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 31 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,317.00 - 1,322.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,550 บาทต่อบาททองคำ ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,650 บาท ปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,660 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.25 น. ของวันที่ 31/01/62)
แนวโน้มวันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2562
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าจะอดทนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากประกาศคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25 – 2.50% ซึ่งนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า เหตุผลสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ลดลง" ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุถึง "อุปสรรคต่างๆ" ซึ่งรวมถึงการขยายตัวที่ชะลอลงในต่างประเทศ และผลกระทบจากการชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง นอกจากนี้ เฟดยังระบุว่า เฟดพร้อมที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนขนาดของงบดุล ถ้าเศรษฐกิจต้องการการผ่อนคลายทางการเงินมากกว่าที่สามารถทำได้ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจะสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่ความชัดเจนจากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ดอลลาร์ร่วงลงต่อ จนราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน ซึ่งราคาทองคำมีแนวโน้มปรับขึ้นรายเดือนเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตามนักลงทุนเริ่มเบนความสนใจไปที่ผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งอาจจะยับยั้งความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหากการเจรจาร่วมกันของทั้งสองฝ่ายยังไม่มีความคืบหน้า หลังจากแทบไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า จีนเต็มใจจัดการกับข้อเรียกร้องหลักของสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ประเด็นการสั่งซื้อถั่วเหลืองจากจีน ไปจนถึงการที่รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนบริษัทของรัฐบาล โดยหวังที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งแทบไม่มีรายละเอียดของการเจรจาที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน ในขณะที่อาจจะไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการก่อนที่การเจรจาจะสิ้นสุดลง โดยโฆษกของสำนักงานผู้แทนการค้าปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการหารือ แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความไม่แน่นอนและยังต้องติดตามต่อไป โดยวายแอลจีเชื่อว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังคงเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้ในระยะต่อไป นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายในตลาดจีนอาจบางเบาลง ก่อนที่ตลาดจีนจะปิดทำการในสัปดาห์หน้าตลอดทั้งสัปดาห์ช่วงวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ เนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ การเข้าซื้อทองคำจำเป็นต้องวางแผนให้ชัดเจน และจัดพอร์ตการลงทุนจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนและทำให้นักลงทุนสามารถรับความผันผวนได้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆขึ้นมาบ้าง โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ระดับ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,334 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,315-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับแรก ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับถัดไปโซน 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นในการเข้าซื้อทองคำทองคำนักลงทุนสามารถสังเกตว่าราคาทองคำยังทำจุดสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าหรือไม่ ซึ่งหากราคาหยุดการทำในลักษณะนี้ แสดงว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแรงลง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายโดยน่าจะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงมาอีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,350บาท) 1,302 (19,200บาท) 1,287 (19,000บาท)
แนวต้าน 1,326 (19,600บาท) 1,334 (19,700บาท) 1,348 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,313 (19,520บาท) 1,302 (19,360บาท) 1,287 (19,140บาท)
แนวต้าน 1,326 (19,720บาท) 1,334 (19,840บาท) 1,348 (20,040บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999