กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานกรุงเทพมหานครและนครปฐม คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ปภ.สนับสนุนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมแนะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองสูง ขอให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน และใช้หน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 05.00 น. พบว่า มีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน คือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 และคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ รวม 2 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พื้นที่ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 104 และที่จังหวัดนครปฐม พื้นที่ตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 118 ทั้งนี้ ปภ. ยังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัด 8 จังหวัด (สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี สระบุรี และสระแก้ว)โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็คาม ขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์มิให้รุนแรงมากขึ้น สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองสูงให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เจ็บป่วยได้ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป