กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--เอสซีไอ อีเลคตริค
SCI ประเดิมปี62 ร่วมทุน "โกลด์ อีลิท ปารีส"บุกธุรกิจใหม่ บริการให้เช่ามือถือ ด้าน"เกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาดช่วยเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ใหม่บาลานซ์ความเสี่ยงธุรกิจ มั่นใจปี 62 แนวโน้มเติบโตขึ้น เดินหน้าขยายลงทุนในเมียนมา หลังจากโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง และเสาสื่อสารโทรคมนาคม กำลังการผลิตเสาที่ 7,500 ตันต่อปี และชุบสังกะสีที่ 2.4 หมื่นตันต่อปี เริ่มเดินเครื่องผลิตแล้ว พร้อมรับรู้รายได้ปีนี้เต็มปี หนุนผลประกอบการปีนี้สดใส
นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการของปี 62 น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปี 61 เพราะคาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานหลายโครงการใหม่ ทั้งงานในส่วนของตู้สวิตช์บอร์ด และงานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) รวมทั้ง บริษัทฯจะรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง และเสาสื่อสารโทรคมนาคม ในประเทศเมียนมา กำลังการผลิตเสาอยู่ที่ 7,500 ตันต่อปี และชุบสังกะสีที่ 2.4 หมื่นตันต่อปี เริ่มเดินเครื่องอย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ ในปี 62 รายได้จากธุรกิจในประเทศจะอยู่ที่ 80-85% ขณะที่รายได้จากต่างประเทศ น่าจะประมาณ 15-20% ของรายได้รวม โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคม ยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ
ล่าสุด บริษัทฯได้รับอนุมัติจากกรรมการบริหารให้ร่วมลงทุนกับ บริษัท โกลด์ อีลิท ปารีส (ประเทศไทย) จำกัด โดยจัดตั้งบริษัทใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ซึ่ง SCI จะลงทุน 49% คิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งบริษัทประกอบธุรกิจ ค้าและบริการให้เช่าโทรศัพท์มือถือ คาดว่าการจัดตั้งบริษัท และการลงทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2/62
สำหรับการเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯประเมินว่า ควรจะหาช่องทางใหม่ๆในการสร้างรายได้ เนื่องจากธุรกิจเดิมในประเทศนั้นเริ่มจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น และจะถึงจุดอิ่มตัวได้ในอนาคต ดังนั้น บริษัทฯได้มีการพยายามหาช่องทางใหม่ๆในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการหาสินค้าหรือบริการหรือธุรกิจที่แปลกใหม่
"ธุรกิจให้เช่ามือถือในครั้งนี้ นั้นเริ่มจากการที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับทางพันธมิตรซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในวงการมือถือมาค่อนข้างนานพอสมควรและบริษัทฯเห็นว่าโครงการนี้น่าสนใจและยังใหม่ และ มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการลองทำสิ่งใหม่ๆ เราคาดหวังว่าการลงทุนในครั้งนี้จะสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทในอนาคต ส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนนั้น หากเป็นไปตามแผนก็ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ" นายเกรียงไกร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า แผนการขยายการลงทุนปีนี้จะเน้นการขยายธุรกิจในเมียนมาเป็นหลัก หลังจากที่โรงงานที่เมียนมาร์ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 61 นอกจากนี้ทางบริษัทฯ คาดว่าการลงทุนผ่านบริษัท ทียูทิลิตี้ส์ จำกัด (TU) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่าง SCI และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) โดย SCI ถือหุ้น 45% เพื่อลงทุนในพลังงานทดแทนและสาธารณูปโภคต่างๆ จะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีโครงการที่ได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับโรงงานอุตสาหกรรมไปแล้ว 4 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างทยอยจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยติดตั้งในปีนี้