กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้ร่วมกับสมาคมมันสำปะหลัง 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย เพื่อติดตามสถานการณ์มันสำปะหลัง ณ ประเทศกัมพูชา และเวียดนาม ระหว่างวันที่ 13 - 18 มกราคม 2562 ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ นับเป็นแหล่งผลิตมันสำปะหลังที่สำคัญ โดยไทยมีการนำเข้ามันสำปะหลังสดและมันเส้นจากกัมพูชาเพื่อรวบรวม/ปรับปรุงคุณภาพ/แปรรูป เพื่อส่งออกเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เวียดนามถือเป็นประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทย
จากการติดตามสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลัง ณ ประเทศกัมพูชา ใน 5 จังหวัด (เสียมราฐ , อุดรมีชัย , พระวิหาร , รัตนคีรี และ ตโบงฆมุม) และประเทศเวียดนาม 2 จังหวัด (ญาลาย และกว่างหงาย) คาดว่า ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2561/62 ในพื้นที่ดังกล่าว จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคามันสำปะหลัง ปี 2560/61 ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูก รวมถึงเกษตรกรดูแลเอาใจใส่ต้นมันสำปะหลังดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ พบต้นมันสำปะหลังที่แสดงอาการคล้ายใบด่างมันสำปะหลังในทุกจังหวัด แต่การแพร่ระบาดมีเพียงบางพื้นที่ จึงคาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของผลผลิตมันสำปะหลังในพื้นที่ให้ลดลง
สำหรับสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังของไทย ปี 2561/62 (ตุลาคม 2561 ถึง กันยายน 2562) ข้อมูล ณ ธันวาคม 2561 คาดว่า มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 8.40 ล้านไร่ เมื่อเทียบกับปี 2560/61 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73 ผลผลิต 29.97 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.53 และผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยว 3,566 ตัน/ไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.65 เนื่องจากในปี 2561 ราคาหัวมันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก เฉลี่ย 2.25 บาท/กิโลกรัม โดยสูงกว่าปี 2560 ซึ่งเฉลี่ยที่ราคา 1.52 บาท/กิโลกรัม จึงจูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูก โดยปลูกแทนในพื้นที่อ้อยโรงงานที่ครบอายุ บางพื้นที่ปลูกแทนในพื้นที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และพื้นที่ที่ปล่อยทิ้งว่าง รวมทั้งพื้นที่ยางพาราที่โค่นทิ้ง ซึ่งผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำฝนเหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นมันสำปะหลัง ประกอบกับราคามันสำปะหลังจูงใจทำให้เกษตรกรดูแลเอาใจใส่บำรุงรักษา จึงส่งผลให้ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น
ด้านราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นา เดือนมกราคม 2562 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.27 บาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2561 ที่ราคากิโลกรัมละ 2.30 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.30 เนื่องจากราคาส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (มันเส้น และแป้งมันสำปะหลัง) มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม 2562 เป็นช่วงที่ผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดมาก อาจทำให้ราคามันสำปะหลังปรับตัวลดลงได้
ทั้งนี้ ขอให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังเมื่อครบอายุ เพื่อให้ได้มันสำปะหลังที่มีคุณภาพ เป็นการเพิ่มปริมาณผลผลิต รวมทั้งในการปลูกรุ่นต่อไปควรเลือกท่อนพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ และไม่มีโรค ซึ่งในส่วนของภาครัฐได้เตรียมแนวทางบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหามันสำปะหลังทั้งระบบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการมันสำปะหลัง ปี 2561/62 รวม 7 โครงการ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 ประกอบด้วย 1) โครงการสนับสนุนเครื่องสับมันสำปะหลังขนาดเล็กเพื่อเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง 2) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด 3) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร 4) โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง 5) โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด (มันเส้นสะอาด) 6) โครงการขยายโอกาสทางการค้าและพัฒนาศักยภาพผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และ 7) โครงการกำกับดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน