กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--พรีบิลท์
PREB เปิดแผนปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวมโต 30% จากงวดปี 61 ที่คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 3,600 ล้านบาท เนื่องจากตุนแบ็กล็อคงานรับเหมาไว้แน่นกว่า 8 พันล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรก ผ่านการลงทุนในบริษัทย่อยในนาม บริษัท"อีส แอม อาร์" จำกัด และบริษัท "พรีบิลท์ โฮลดิ้ง" จำกัด โดยเชื่อว่าธุรกิจอสังหาฯ จะช่วยทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิมากขึ้น
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารสูง เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 30% จากปีก่อน ที่คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,600 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีงานรอรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างประมาณ 8 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะแบ่งรับรู้ภายในปี 2562 นี้ 4 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยรวมกับรายได้อีกประมาณ 580 ล้านบาทจากงานขายผลิตแผ่นพื้นคอนกรีต และพรีแคสของบริษัทพีซีเอ็ม คอนสตรัคชั่น แมททีเรียล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4/2562
"แนวโน้มของงานรับเหมาก่อสร้างอาคารสูงของบริษัทฯ ยังมีทิศทางที่ดี และยังคงสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยปีนี้บริษัทฯ เพิ่มงานธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามา เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังเน้นการมีจุดแข็งในด้านคุณภาพ ต้นทุนต่ำ โดยจะช่วยทำให้บริษัทฯ รักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ในระดับที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยสร้างโมเดลใหม่ จะอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พรีบิลท์ โฮลดิ้ง จำกัด (PBH) ซึ่งมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ร่วมกับกลุ่มธุรกิจอื่น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 5 โครงการ และการลงทุนผ่านบริษัทฯย่อยที่ถือหุ้น 100% ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการโดยบริษัทฯเอง ในนามบริษัท อีส แอม อาร์ จำกัด หรือ (IAA) ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินอยู่ระหว่างการพัฒนาบนถนนสุขุมวิท 2 โครงการมูลค่ารวมกว่า 3 พันกว่าล้านบาทและยังมีโครงการบ้านเดี่ยวอีกประมาณ 1 พันล้าน
บริษัทฯคาดการณ์ว่าปีนี้จะสามารถเริ่มทยอยรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการบ้านจัดสรร ถนนบางแวก มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1 พันล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 62 ประมาณ 90 ล้านบาทส่วนที่เหลือจะทะยอยรับรู้ในอีก 2 ปีถัดไป ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการอยู่ในระหว่างการพัฒนาออกแบบและขอในอนุญาต โดยคาดว่าจะมีการเปิดโครงการขายได้ภายในนี้ปี
ในส่วนของการลงทุนร่วมกับบริษัทฯ อื่นปัจจุบัน PBH ข้าร่วมทุนกับพันธมิตร 3 กลุ่ม โดย PBH จะมีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 40%-49% กลุ่มแรกเป็นกลุ่มบริษัท พรีเมี่ยมเพลส โดยโครงการแรกที่จะเริ่มรับรู้ผลกำไรคือโครงการที่ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า เสนานิคม มูลค่าโครงการประมาณ 1,429 ล้านบาทโดยปัจจุบันมียอดจองทำสัญญาไปแล้วเกือบ 90% โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มส่งมอบห้องพักได้ในไตรมาส 4/2562 ซึ่งจะเป็นผลให้งบการเงินรวมของบริษัทฯ ได้รับผลกำไรจากเงินลงทุนเป็นครั้งแรกเช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าโครงการน่าจะมีอัตรากำไรสุทธิของต่อโครงการไม่ต่ำกว่า 15% ส่วนโครงการที่ 2 คือโครงการบ้านทาวน์โฮมบริเวณ ถนนรัตนโกสินทร์ มูลค่าโครงการประมาณ 590 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างและโอนจบภายในปี 2563 และโครงการที่ 3 คือโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม low rise บริเวณ ทาวน์ อิน ทาวน์ ย่านถนนรามคำแหง มูลค่าโครงการประมาณ 750 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจะก่อสร้างในปี 2563 และเสร็จสิ้นการโอนภายในปี 2564
นอกจากนี้ PBH ได้ยังมีการร่วมทุนกับ บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท จำกัดและบริษัท พรีแซนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม สไตล์ญี่ปุ่น บนถนนสุขุมวิท 39 มูลค่าโครงการประมาณ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2564 และจะเริ่มทะยอยโอนห้องชุดในปีเดียวกัน และล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนในลักษณะเงินลงทุนทั่วไปเพื่อหวังผลตอบแทนในรูปเงินส่วนแบ่งกำไรหรือเงินปันผลกับ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม high rise มูลค่า 4 พันล้านบาทบริเวณย่านสะพานควาย