กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--Worklink PR
BEAUTY เปิดฉากรุกหนักตลาดจีน จับมือพันธมิตร Carrot Mall ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ บุกตลาดหลัก( General Trade ) Mainland China พร้อมแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย Cross Border E-commerce เจาะตลาดออนไลน์จีนเพิ่ม เผยผลิตภัณฑ์ Beauty Buffet ได้รับ อย.จีนแล้ว 5 SKUs เดินหน้ากลยุทธ์การตลาด O2O ดันยอดขายโตต่อเนื่อง
ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a beautiful life เปิดเผยว่าบริษัทได้เซ็นสัญญาแต่งตั้ง Carrot Mall ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางค้าปลีกและออนไลน์รายใหญ่ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Scentio Milk Plus Whitening Q10 Facial Foam ผ่านช่องทางตลาดหลัก ( General Trade ) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศจีน (Mainland China) เนื่องจากสินค้า Scentio Milk Plus Whitening Q10 Facial Foam เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคจีนมากที่สุด และมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงต่อจากนี้ บริษัทจะทำงานร่วมกันกับตัวแทนจำหน่ายทั้งด้านกลยุทธ์การตลาด โปรโมชั่น เชื่อมโยงทุกเครื่องมือการตลาดเข้าหากัน ชูจุดเด่นคุณภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ซึ่งตลาด Mainland China มีขนาดใหญ่กว่าไทย 18 เท่าตัว
ปัจจุบันสินค้าของบริษัทจำนวน 5 SKUs ได้รับการรับรองจาก China Food and Drug Administration (CFDA) หรือ องค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศจีนเรียบร้อยแล้วและจะทยอยได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมในปีนี้ "การได้รับเครื่องหมาย อย. ประเทศจีน นอกจากจะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ยังทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและสร้างยอดขายได้ดีในกลุ่มลูกค้าจีน สามารถขยายไปยังช่องทางการขายอื่นๆ อย่าง ช่องทางตลาดหลัก( General Trade )ที่ประกอบด้วยช่องทาง Offline และ Online ในตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน (Mainland China) สำหรับตลาดการขายสินค้าหลักของจีนมีทั้งที่เป็นช่องทางออฟไลน์ เช่น เทรดดิชั่นนอล เทรด คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรด และช่องทางออนไลน์ที่เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิรซ์ต่างๆ ที่จัดจำหน่ายสินค้าในประเทศจีน ซึ่งตลาดเครื่องสำอางของประเทศจีนถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมีมูลค่าตลาดรวมสูงกว่า 1.2 ล้านล้านบาท "ดร.พีระพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทได้มีการขยายช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบ Cross Border E-commerce (CBEC) ซึ่งช่องทางนี้ถือเป็นโอกาสใหม่สำหรับการค้าออนไลน์ในจีนที่รัฐบาลจีนมีมาตรการสนับสนุนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง โดยรัฐบาลจีนมีการเปิดคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ในพื้นที่เขตการค้าเสรี 13 เมืองใหญ่ ( ข้อมูล ณ ปี 2017 ) เช่น เมืองต้าเหลียน, เหอเฟย, เฉิงตู, ชิงเต่า และซูโจว เพื่อให้ผู้ค้าออนไลน์นำสินค้ามาพักไว้แบบไม่ต้องเสียภาษี เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าแล้วต้องนำสินค้าออกจากคลังจึงเสียภาษีในอัตราพิเศษ โดยในปี 2018 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 7 Platforms และในปีนี้มีแผนเพิ่มจำนวน Platform อีก 2 Platforms และยังขยายจำนวน SKUs สินค้าเข้าจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
ดร.พีระพงษ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ในประเทศจีน ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การจำหน่ายผ่านช่องทาง Cross Border E-commerce หรือการซื้อขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม การจำหน่ายผ่านช่องทางตลาดหลัก (General Trade) ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เช่น เทรดดิชั่นนอลเทรด คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรด และการจำหน่ายทั้งแบบค้าปลีกและค้าส่งผ่านลูกค้ารายย่อยหรือนักท่องเที่ยวจีน โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (Online to Offline synchronization) ในการช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าช่องทางจำหน่ายใหม่จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นจากการหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้สะดวกและแพร่หลาย