กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--ฟรีโฟลว์ คอมมิวนิเคชั่น
ธัญ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แนะวิธีดูแลตัวเองจากการเผชิญมลภาวะและฝุ่นละออง พร้อมเผยเคล็ดลับผิวกระจ่างใส เรียบเนียนกับผลิตภัณฑ์ 'ไรซ์ คอลเลกชั่น: เฟเชียล แคร์' (Rice Collection: Facial care)
มลภาวะและฝุ่นละอองที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวันนั้น เป็นสิ่งที่เรามิอาจหลีกเลี่ยงได้ นอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวโดยตรง อนุภาคขนาดเล็กของมลภาวะและฝุ่นละอองจะไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) กับชั้นฟิล์มไขมันเคลือบผิว (Sebum) ทำหน้าที่เสมือนเกราะปกป้องผิวให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ อุดตัน นำมาซึ่งปัญหาผิว อาทิ สิว ริ้วรอย รวมถึงความหมองคล้ำ ดังนั้นการล้างทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม'ธัญ' (THANN) จึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม คุณหมอผึ้ง-แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง จัดเวิร์คช็อปให้ความรู้เรื่องอันตรายและวิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 รวมถึงแนะเคล็ดลับการฟื้นฟูสุขภาพผิวหลังเผชิญมลภาวะจากฝุ่นควัน โดยมีเหล่าเซเลบริตี้สาวผิวสวย เบลล์-รินทร์รตา อินทามระ, พริม-พริมา เสนาขันธ์ และแพ็ตตี้-พริษฐ์ชยาดา พิริยะเมธามาร่วมเผยถึงไลฟ์สไตล์ที่ต้องเสี่ยงต่อการเผชิญมลภาวะ พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการดูแลผิวสวยจากในแบบของตนเอง ที่ร้านลาฟ คาเฟ่ (LAFF Cafe) สุขุมวิท 50
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง ได้เผยถึงอันตรายของฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มีต่อสุขภาพผิว และวิธีป้องกัน รวมถึงเคล็ดลับการฟื้นฟูสภาพผิวหลังเผชิญมลภาวะและฝุ่นควันว่า "หลายคนอาจยังไม่ทราบมาก่อนว่าฝุ่น PM 2.5 นอกจากจะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวเป็นอย่างมาก หากไม่ได้รับการดูแลและฟื้นฟูอย่างถูกวิธี ซึ่งโดยทั่วไปการวัดค่าฝุ่นละอองนั้นมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ PM 10 ซึ่งเป็นฝุ่นที่เข้าสู่ร่างกายได้ยาก เพราะไม่สามารถเข้าผ่านรูขุมขนได้ และซีเลียหรือขนจมูกยังสามารถกรองได้อยู่ ส่วนฝุ่นละอองประเภท PM 2.5 นั้นคือฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งขนจมูกไม่สามารถคัดกรองได้ และสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้โดยง่าย เพราะมีขนาดเล็กมาก ส่วนใหญ่มาจากสารไฮโดรคาร์บอนที่เกิดจากควันรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม หรือการเผาไหม้สิ่งต่างๆ โดยตามกำหนดขององค์การอนามัยโลกในประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องมีค่าฝุ่น PM 2.5 ห้ามเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนในประเทศกำลังพัฒนาจะต้องห้ามเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จริงๆ แค่เกิน 50 มาก็เริ่มส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกยังกำหนดให้ฝุ่น PM 2.5 เป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย ฝุ่นละออง PM 2.5 มีผลกระทบต่อผิวโดยตรงด้วย เนื่องจากเป็นสารที่สามารถละลายได้ในไขมันผนวกกับบริเวณรูขุมขนนั้นมีต่อมไขมันอยู่จำนวนมาก สามารถละลายและซึมเข้าสู่ร่างกายได้ในทันที ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น ผดผื่นคัน โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายอาการจะกำเริบได้ง่าย นอกจากนี้ฝุ่นละออง PM 2.5 ยังไปกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระต่อผิวหนัง ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวตามมามากมาย เช่น ผิวเหี่ยว เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือการเดินทางที่จะต้องเผชิญกับมลภาวะของฝุ่น PM 2.5 หรือถ้าใครที่มีไลฟ์สไตล์ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือต้องเดินทางอยู่เสมอ ก็ควรใส่หน้ากากกันฝุ่นที่สามารถกรอง PM 2.5 ได้ รวมถึงแต่งตัวให้มิดชิด หลังเสร็จกิจกรรมในแต่ละวันควรอาบน้ำ สระผม ชำระล้างร่างกายให้สะอาด และเสริมด้วยการดีท็อกซ์ในวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ ด้วยการพาตัวเองไปสูดอากาศในที่ที่มีอากาศบริสุทธ์ หรือดื่มน้ำให้มากๆ รวมถึงฟื้นฟูด้วยผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ผิวสักสัปดาห์ละครั้ง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแด้นท์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี ประกอบด้วย เพราะจะช่วยเสริมให้สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ควรสครับผิวเพื่อกระตุ้นกระบวนการ ผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพสัปดาห์ละครั้ง ควรเลือกแบบที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เพราะฝุ่นละอองเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวเราแพ้ง่ายอยู่แล้ว"
'ธัญ' (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา 'ธัญ' (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อการดูแลสุขภาพผิว และเส้น โดยปัจจุบันมีกว่า 90 สาขา รวมถึงสปาอีก 15 แห่งใน 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ในกิจกรรมครั้งนี้ คือ คือ 'ไรซ์ คอลเลกชั่น: เฟเชียล แคร์' (Rice Collection: Facial Care) เป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว มอบคุณค่าการบำรุงด้วยน้ำมันรำข้าวโมเลกุลขนาดเล็ก ซึมซาบสู่เซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว อุดมด้วยวิตามิน E และสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ (Anti-oxidant) พร้อมรักษาสมดุลความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียน้ำ และปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งประกอบไปด้วย ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก (Detoxifying Clay Mask) มาส์กสูตรดีท็อกซ์ผิวจากโคลนธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ ทานากุระ เคลย์ (Tanakura Clay) จากประเทศญี่ปุ่น, เกาลิน เคลย์ (Kaolin Clay) และเบนโทไนต์ เคลย์ (Bentonite Clay) ดูดซับความมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกตกค้างออกจากรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยม สารสกัดจากแตงกวา (Cucumber) และกุหลาบ (Rose) ปลอบประโลมผิว และกระชับรูขุมขน และ โอ๊ตมีล เฟซ สครับ (Oatmeal Face Scrub) สครับสำหรับผิวหน้า สูตรอ่อนโยน ด้วยเม็ดสครับเนื้อละเอียดจากธรรมชาติอย่าง ข้าวโอ๊ต (Oatmeal) และเมล็ดผลแอพพริคอท (Apricot seed) ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พร้อมมอบคุณค่าการบำรุงด้วยสารสกัดจากดอกมาชเมลโล่ (Marsh Mallow) และใบบัวบก (Centella) อุดมด้วยวิตามินเอ, บี และซี ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว เผยผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เพื่อการฟื้นฟูสภาพผิวจากภายนอกแล้ว ทาง "ธัญ" (THANN) ได้แนะนำ 2 บริการใหม่ของ 'เวลเนส โซน' (Wellness zone) เพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพให้กับร่างกายจากภายใน และคืนสมดุลให้กับจิตใจ โดยนำศาสตร์การบำบัดด้วยวิถีธรรมชาติผสานเข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัย สู่ความสมบูรณ์แบบในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยเปิดให้บริการที่ THANN Sanctuary spa ชั้น 3, ศูนย์การค้าเกษร และ THANN Flagship store สาขาสุขุมวิท 47 ไม่ว่าจะเป็นบริการ 'ซอลท์ เธอราพี ทรีทเม้นท์' (Salt therapy treatment) ศาสตร์การบำบัดด้วยเกลือ (Halotherapy) ที่ได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรป ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ หอบหืด ไซนัส กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงแก้ปัญหาโรคผิวหนัง หรือผื่นแพ้ต่างๆ โดยบรรยากาศภายในห้องถูกจำลองขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการสร้าง และควบคุมความเข้มข้นของอณูเกลือให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง (11-12.5 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีอนุภาคขนาด 1-5 ไมครอน) ด้วยการเติมประจุไอออนลบ จึงไม่เกิดการระเหยระหว่างบำบัด และไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองเมื่อสูดดม อากาศที่ผลิตออกมาจึงยังคงแห้งสบาย ปลอดแบคทีเรีย ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ปริมาณที่เข้าในระบบทางเดินหายใจน้อยมากเมื่อเทียบกับการบริโภคเกลือใน 1วัน (6 กรัม) โดยอณูเกลือจะเข้าไปเกาะและย่อยสลายอณูสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เป็นประจุบวกทั้งหมดให้หลุดออก และจะถูกกำจัดทิ้งโดยการไอ จาม หรือกระบวนการต่างๆ ทางร่างกาย และ 'ออกซิเจน เธอราพี ทรีทเม้นท์' (Oxygen therapy treatment) อีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้หายใจสะดวก และหายใจได้ลึกขึ้นเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย โดยเป็นการทำงานแบบผสมผสานระหว่างการสร้างอากาศบริสุทธิ์ และการปล่อยโอโซนโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของก๊าซออกซิเจน (Active Oxygen) ไปจับโมเลกุลของสารปนเปื้อน แล้วทำการสลายด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างสารนั้น หลังจากการทำปฎิกิริยา โอโซนจะแปรสภาพกลับไปเป็นก๊าซออกซิเจนโดยไม่เป็นอันตราย และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บรรยากาศภายในห้องจึงยังคงความสดชื่น เย็นสบาย นอกจากนี้ยังบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศ และฟื้นฟูความแข็งแรงของร่างกาย
ด้านเหล่าเซเลบริตี้สาวก็ได้ร่วมเผยถึงไลฟ์สไตล์ที่ต้องเสี่ยงต่อการเผชิญมลภาวะ พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการดูแลผิวสวยจากในแบบของตนเอง เริ่มจากดีไซน์เนอร์สาวสวย เบลล์-รินทร์รตา อินทามระ เผยว่า "ด้วยความที่อาชีพของเราเป็นดีไซน์เนอร์ที่ต้องคลุกคลีอยู่กับเสื้อผ้าและต้องไปเดินตลาดผ้าอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับฝุ่นจากผ้าเป็นประจำอยู่แล้ว ประกอบกับเราก็เป็นคนชอบวิ่งด้วย ก็จะต้องหาสถานที่วิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้หลีกเลี่ยงการเผชิญมลภาวะได้ยาก แต่ในช่วงที่ฝุ่นเยอะแบบนี้เราก็พยายามวิ่งในยิมบ้าง เวลาออกไปข้างนอกก็จะใส่หน้ากากกันฝุ่นด้วย ส่วนเรื่องการดูแลผิวนอกจากขั้นตอนพื้นฐานทั่วไปแล้ว เราก็จะเน้นเรื่องการดีท็อกซ์ผิวด้วยมาส์กด้วย เพราะไม่อยากให้ผิวมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ โดยจะพยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวสะอาดและชุ่มชื้นขึ้น"
ถัดมาที่สาวผิวสวย พริม-พริมา เสนาขันธ์ เล่าว่า "ในแต่ละวันของเรามักจะต้องเดินทางไปทำธุระหลายสถานที่ ต้องเผชิญมลภาวะบนท้องถนนค่อนข้างเยอะ ถ้าวันไหนที่อากาศไม่ค่อยดี ฝุ่นเยอะ เวลากลับมาถึงบ้านจะรู้สึกได้เลยว่า ผิวหน้าจะเหนอะหนะ และอ่อนล้า นอกเหนือจากการทำความสะอาดผิวหน้าแล้วเราจะสครับผิวหน้าสัปดาห์ละครั้ง เพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ปกติหากมีเวลาเราจะชอบไปตากอากาศตามที่ทะเล เลยต้องดูแลผิวเป็นพิเศษ เพราะต้องเผลิญ หลังจบทริปก็จะชอบหาตัวช่วยมาดีท็อกซ์ผิวหน้า จะชอบใช้ดีท็อกซ์มาส์กที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และต้องเป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิว"
ปิดท้ายที่สาวนักเดินทางชื่อดัง แพ็ตตี้-พริษฐ์ชยาดา พิริยะเมธา เผยว่า "เราเดินทางค่อนข้างบ่อยเพราะเป็นคนชอบท่องเที่ยวและเป็นบล็อกเกอร์ด้วย ส่วนใหญ่ก็จะชอบท่องเที่ยวตามธรรมชาติอย่างทะเลหรือภูเขา ดังนั้นเวลาที่เราถ่ายรูปก็ต้องหามุม หาแสง และรอจังหวะที่พอดี ซึ่งจะต้องใช้เวลาอยู่กลางแจ้งมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการดูแลผิวก็จะเน้นใช้ครีมกันแดดก่อนออกกลางแจ้ง และจะมาส์กและสครับผิวหลังจบทริป เพื่อขจัดสิ่งสกปรกตกค้างที่อาจอุดตันรูขุมขนออก รวมถึงหาเวลาไปนวดอโรม่า เพราะเรารู้สึกว่ามันสบายและได้พักผ่อนจริงๆ อีกอย่างการที่เราเดินทางบ่อยต้องเผชิญมลภาวะมากมาย ก็เลยจะพาตัวเองไปทำออกซิเจนทรีทเม้นท์ เพื่อสูดอากาศดีๆ สักเดือนละ 2 ครั้ง"
สัมผัสผิวสวย เรียบเนียน กระจ่างใส ด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 'ไรซ์ คอลเลกชั่น: เฟเชียล แคร์' (Rice Collection: Facial Care) อาทิ ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก (Detoxifying Clay Mask) ขนาด 100 กรัม / ราคา 1,200 บาท และ โอ๊ตมีล เฟซ สครับ (Oatmeal Face Scrub) ขนาด 100 กรัม / ราคา 1,200 บาท ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน 'ธัญ' (THANN) ทั้ง 16 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามดิส คัฟเวอรี่, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ และสาขาใหม่ล่าสุด ชั้น 4ไอคอน สยาม