กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--บลจ.กสิกรไทย
บลจ.กสิกรไทย จับมือ Amundi Asset Management ออกกองทุนมีประกันกองที่ 2 'กองทุนเปิดเค การันตี 5 ปี B (KGT5YB)' ชูจุดเด่นรับประกันเงินลงทุน มีสภาพคล่องสูง เพิ่มโอกาสทำกำไรได้ทุกวัน เปิดเสนอขายครั้งเดียว 11 – 15 ก.พ.นี้ เผยเศรษฐกิจโลกปี 62 แม้เข้าสู่ช่วง Late-cycle แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุนทั่วโลก
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า หลังจากที่ บลจ.กสิกรไทย ได้เปิดขายกองทุนเปิดเค การันตี 5 ปี A (KGT5YA) เมื่อปลายปี 2561 ซึ่งเป็นกองทุนมีประกันกองแรก และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน โดยกองทุนสามารถระดมทุนได้ถึง 4,985.60 ล้านบาท แม้ว่าในช่วง IPO จะเป็นช่วงที่ตลาด
หุ้นทั่วโลกมีความผันผวน ความสำเร็จของกองทุน KGT5YA ทำให้ได้รับรางวัล Fund Launch of the Year และบลจ.กสิกรไทย ได้รับรางวัล Best Fund House จาก Asia Asset Management ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้ร่วมมือกับ Amundi Asset Management ออกกองทุนมีประกันกองที่ 2 'กองทุนเปิดเค การันตี 5 ปี B (KGT5YB)' โดยเปิดเสนอขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 11 - 15 กุมภาพันธ์ 2562
กองทุน KGT5YB มีการรับประกันเงินลงทุน (หลังหักค่าธรรมเนียม 0.25%) โดยธนาคารเครดิต อะกริโคล (Credit Agricole) ซึ่งเป็นธนาคารสัญชาติฝรั่งเศสที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรป รับหน้าที่เป็นผู้ประกันเงินลงทุนของกองทุน อีกทั้งกองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุก เน้นกระจายการลงทุนไปในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทน โดย Amundi Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนอันดับ 1 ของยุโรป รับหน้าที่บริหารจัดการกองทุน และปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
Mr. Christian Pellis, Global Head of Distribution และกรรมการบริหารของ Amundi Asset Management กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่บลจ.กสิกรไทย ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำของประเทศไทย เลือก Amundi Asset Management ในการออกกองทุนมีประกันกองที่ 2 และกล่าวต่อว่า กองทุนมีประกันได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่เริ่มลงทุนเป็นครั้งแรก
นายวศิน กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Amundi Asset Management ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอีกก้าวของ บลจ.กสิกรไทย ที่มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน อีกทั้งยังช่วยยกระดับธุรกิจกองทุนรวมของไทยให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับในระดับสากล
"กองทุนมีประกัน (Guaranteed Fund) มีความแตกต่างจากกองทุน Term Fund ตรงที่มีสภาพคล่องสูง ผู้ลงทุนสามารถขายคืนได้ก่อนครบกำหนดโครงการ ตามราคา NAV ณ วันที่ทำการขายหน่วยลงทุน ซึ่งหากราคา NAV ปรับตัวมากกว่า 10 บาทต่อหน่วย ก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง แต่หากราคา NAV ปรับตัวต่ำกว่า 10 บาทต่อหน่วย ก็จะไม่ได้รับสิทธิประกันเงินลงทุน ทั้งนี้ หากยังมีหน่วยลงทุนเหลืออยู่และถือไปจนครบกำหนดโครงการ 5 ปี หน่วยลงทุนจำนวนนั้นก็จะยังได้รับสิทธิประกันเงินลงทุนอยู่ กองทุนมีประกันจึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นรักษาเงินต้นที่ลงทุน ต้องการสภาพคล่องขายคืนได้ทุกวันทำการ คาดหวังผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากบวกเงินเฟ้อ และรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้ปานกลาง" นายวศินกล่าว
นายวศินกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุนปี 2562 แม้เศรษฐกิจโลกขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง (Late-cycle) ก็ตาม โดยมีปัจจัยบวกจากหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุน รวมทั้งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐฯ อุปสงค์ภายในประเทศของภูมิภาคยุโรป ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และแผนนโยบายการคลังของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาปัจจัยเสี่ยงความไม่แน่นอนด้านการเมืองในแต่ละภูมิภาค สงครามทางการค้า นโยบายดอกเบี้ย และการปรับตัวของค่าเงินทั่วโลก
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน KGT5YB สามารถเริ่มลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือ ธนาคารทหารไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอาจมีความผันผวนตามสภาวะตลาดและค่าเงิน กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้