กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
ก.ล.ต. นับหนึ่ง Filing บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฯ เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาทต่อหุ้น ด้าน CEO "ธนากร ธนวริทธิ์" เล็งนำเงินไปพัฒนาโครงการคอนโดฯ บนพื้นที่ที่มีศักยภาพ มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค พร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทย
บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำหุ้น บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ภายใต้ชื่อย่อ "ALL" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟล์ลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.79 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขาย IPO ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟล์ลิ่ง ของ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน "ALL" มีทุนจดทะเบียนจำนวน 560 ล้านบาทและมีทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้วจำนวน 410 ล้านบาท หรือคิดเป็น 410 ล้านหุ้น โดยกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยแนวสูงประเภทคอนโดมิเนียม (Low Rise และ High Rise) และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยประเภทแนวราบ ได้แก่ ทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ ดิ เอ็กเซล ไรส์ อิมเพรสชั่น และ เดอะ วิชั่น รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนและนายหน้าในการขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ ดำเนินงานภายใต้ บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด ("Thai D") ธุรกิจลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแล้วเสร็จภายใต้ชื่อ "Rise Venture" ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไรส์ เอสเตท จำกัด ("RISE") และธุรกิจให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ดำเนินงานภายใต้บริษัท ออลล์ พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด ("ALL Prop")
นอกจากนี้ "ALL" ยังมีการลงทุนในกิจการร่วมค้าอีก 2 บริษัท คือ บริษัท ออลล์ อินสไปร์-ฮูซิเออร์ สุขุมวิท 50 จำกัด ("ALL Hoosiers") เพื่อพัฒนาโครงการ The Excel Hideaway Sukhumvit 50 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise และบริษัท เอเอชเจ เอกมัย จำกัด ("AHJ Ekkamai") เพื่อพัฒนาโครงการ The Impression Ekkamai ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise
ในส่วนผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2558 – 2560 และงวด 9 เดือนแรกปี 2561 นั้น กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2558 มีรายได้รวม จำนวน 109.14 ล้านบาท 419.69 ล้านบาท 714.50 ล้านบาท และ 1,626.77 ล้านบาท ตามลำดับ และในช่วงเวลาเดียวกันกลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 3.55 ล้านบาท 11.03 ล้านบาท 80.80 ล้านบาท และ 212.73 ล้านบาท ตามลำดับ โดยสาเหตุหลักที่รายได้รวมและกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องคือยอดรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตามโครงการที่สร้างแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ในแต่ละปี นับตั้งแต่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการแรกในปี 2558
ด้านนายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ "ALL" เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายพื้นที่ที่มีศักยภาพ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานในอนาคต
บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ถือหุ้น คู่ค้า พนักงาน เป็นต้น โดยการเสนอขาย IPO ครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากตลาดเงินและตลาดทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตจำนวน 6 แห่ง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 15,350 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,650 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมแบบ High Rise จำนวน 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 11,700 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดขายได้ภายในปี 2562 เป็นต้นไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ALL" มุ่งเน้นพัฒนาโครงการบนพื้นที่ในรัศมีแนวระบบขนส่งมวลชนระบบรางของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน ตลอดจนทำเลอื่นที่มีศักยภาพ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเน้นฟังก์ชั่น การใช้งานการออกแบบที่ทันสมัยละเป็นเอกลักษณ์และมุ่งเน้นให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้จริง รวมถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งแวดล้อมที่ดี ในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ตามแนวคิด "Class of Living " ชีวิตที่มีระดับ คือชีวิตที่คุณเลือกเอง