กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--พราวด์ เรียล เอสเตท
"พราว เรียลเอสเตท" ทุ่มงบการตลาดกว่า100 ล้านบาท จัดอีเว้นท์กีฬาระดับอินเตอร์ฯ ตลอดทั้งปี หวังดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สานแผนดันหัวหินเป็น "สปอร์ต เดสทิเนชั่น" ล่าสุดจับมือธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับปรุง SCB Center Court ภายใน ทรู อารีน่า หัวหิน ยกระดับเป็นสนามเทนนิสที่มีมาตรฐานสากล พร้อมประเดิมรายการแรกกับการแข่งขันเทนนิสหญิงของโลก ระหว่าง28 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2562 นี้
พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า พราว เรียลเอสเตท จะเดินหน้าแผนการผลักดันหัวหินให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (สปอร์ต เดสทิเนชั่น) อย่างจริงจัง โดยในปีนี้จะใช้งบการตลาดมากกว่า100 ล้านบาท เน้นจัดกิจกรรมระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาโดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าหัวหินมากกว่าปีก่อน12%ซึ่งตลาดจีนยังคงมาแรงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
กิจกรรมที่จัดขึ้นจะมีทั้งรายการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น งานโปโล ASIAN BEACH POLO 2019, Golf Tournament,งานวิ่งมาราธอน HUAHIN GRAND MARATHON, งานปั่นจักรยานBIKE & SHOOT 2019 และงานอีเว้นท์ด้านไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ล่าสุด ประเดิมเปิดสนามSCB Center Court กับการกลับมาของรายการแข่งขันเทนนิสหญิงของโลก"ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเมนต์" รายการ "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ" ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8 ล้านบาท โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2562
"ปัจจุบันเราใช้กีฬาเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาหัวหิน เพราะมองว่ากีฬาไม่ใช่แค่กระแสที่มาในระยะสั้นเท่านั้น แต่กีฬาจะอยู่กับคนทุกยุคทุกสมัย สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย เช่นฟุตบอล และเทนนิส ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลายกลุ่ม รวมทั้งกีฬาโปโล ก็จะเข้าถึงกลุ่มคนในอีกกลุ่มหนึ่ง โดยงานต่างๆ ที่จัดจะอยู่ในพื้นที่ของ พราว เรียลเอสเตท เช่นทรู อารีน่า หัวหิน, สวนน้ำ วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล,โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลหัวหิน รีสอร์ท,ฯลฯ เป็นต้น" คุณพราวพุธกล่าว
ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันเทนนิสหญิง"โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 พรีเซนเตด็ บาย อีเอ" กล่าวว่าปัจจุบันการแข่งขันกีฬาถือเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย และส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติสนใจ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ มาสู่หัวหิน การได้จัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์สำคัญระดับโลกอย่างการแข่งขันเทนนิสหญิง "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 พรีเซนเตด็ บาย อีเอ"ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศจากการหลั่งไหลเข้ามาของผู้ร่วมงาน คณะผู้จัดการ และผู้เข้าชมการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้อย่างมหาศาลจากการได้แพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวผ่านรายการแข่งขันกีฬาไปทั่วโลก
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่จะทยอยเข้ามา พราว เรียล เอสเตท ผู้บริหารโครงการ ทรู อารีน่า หัวหิน จึงได้จับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ปรับปรุงสนามจัดการแข่งขันSCB Centre Court โดยเพิ่มอัฒจรรย์ผู้ชมสำหรับเซ็นเตอร์คอร์ต ซึ่งต้องให้ได้มาตรฐานระดับสากล สามารถจุได้ถึง 2,500ที่นั่ง ออกแบบหลังคาให้เป็นรูปหน้าจั่วแบบสถาปัตยกรรมแบบไทยเพื่อให้คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ พร้อมด้วยหลังคาผ้าใบสลับซ้อนเป็นสีขาวโปร่งทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี ซึ่งใช้งบประมาณในการปรับปรุงครั้งนี้กว่า 20 ล้านบาท
"หลังจากจบการแข่งขัน โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ แล้วสนามSCB Centre Court จะใช้ในการแข่งขันเทนนิสในรายการอื่นๆ ต่อไป จึงคาดว่าสนามแห่งนี้จะเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามามากขึ้นด้วย" นายสุวัจน์กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่สนามเทนนิสมีระบบELC (Electronic line calling)เพื่อย้อนดูภาพการตกของลูกเทนนิสในสนาม ในจังหวะที่บางครั้งสายตาของมนุษย์ไม่สามารถมองได้ทัน พร้อมไฟส่องสว่างที่คอร์ตเทนนิสที่ออกแบบมาพิเศษเงาไม่บังผู้ตีในตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังมีส่วนของห้องใต้อัฒจรรรย์ ซึ่งเป็นห้องนักกีฬา และห้องอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับผู้มาใช้สนาม
ด้านนายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า"สนามSCB Centre Court แห่งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันวงการกีฬาเทนนิสไทย สร้างนักเทนนิสรุ่นใหม่ให้ก้าวไกลไปอีกระดับ และไทยพาณิชย์พร้อมจะสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคน และหวังว่าเราจะได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ให้กับวงการกีฬาไทยด้วยกันอีกในอนาคต"