กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
เนื่องในวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี กรมควบคุมโรค ได้กำหนดการรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อเอชไอวีตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยเน้นการสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ เสริมสร้างความตระหนัก ในการป้องกันตนเอง และคู่ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี ตลอดจนส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติในการดูแลสุขภาวะทางเพศ รวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อคู่และสังคม
สำหรับปี 2562 กิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี ตามแนวคิด "SEXรอบคอบ ตอบ OK : เรื่องเท่ๆ กับรักของเรา" มีประเด็นการสื่อสารที่สำคัญ ดังนี้ ไม่พร้อมให้ Say No เมื่อคุณOK ให้ Say Yes, ป้องกันคุณ ป้องกันคู่จะเป็นผู้ไม่ประมาท,ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และใช้ถุงยางอนามัยถือว่ารับผิดชอบตนเองและคู่
ดร.นายแพทย์ สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ข้อมูลสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ระบุสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อเอชไอวีในช่วงปีงบประมาณ 2556 – 2560 พบว่าอัตราการป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจาก 19 ต่อแสนประชากร เป็น 28.9 ต่อแสนประชากร โดยโรคหนองในเป็นโรคที่มีอัตราป่วยสูงสุด เพิ่มขึ้นจาก 10.5 ต่อแสนประชากร เป็น 15.8 ต่อแสนประชากร กลุ่มประชากรที่พบอัตราป่วยของโรคหนองในมากที่สุดในปีงบประมาณ 2560 ได้แก่ช่วงอายุ 15 – 24 ปี คือ 66.6 ต่อแสนประชากร และยังพบว่าในกลุ่มนี้มีอัตราป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคหลัก (โรคหนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส แผลริมอ่อน และกามโรคต่อมน้ำเหลือง) สูงเช่นกัน คือ 99.6 ต่อแสนประชากร สำหรับการติดเชื้อเอชไอวีพบว่า ช่วงอายุ 15 – 19 ปี และ 20 – 24 ปี มีแนวโน้มสูงขึ้น ร้อยละ 2.3 และ 3.5 ตามลำดับ และผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายกว่าคนทั่วไป 5 – 9 เท่า สถานการณ์ที่บ่งบอกว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มสูงขึ้น และเห็นผลกระทบตามมาคือ การพบหญิงตั้งครรภ์ที่มีการติดเชื้อสูงขึ้น และมีผลถึงการพบการติดเชื้อซิฟิลิสแต่กำเนิดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย มีเป้าหมายจะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 ปัจจุบันจึงมีการดำเนินงานควบคุมป้องกันรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่บูรณาการไปกับการควบคุมป้องกันรักษาเอชไอวีและโรคเอดส์โดยการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (HIV & STIs Literacy เพื่อให้มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย สามารถใช้ถุงยางอนามัยได้ถูกต้อง ส่งเสริมให้วัยรุ่นเข้าถึงชุดบริการป้องกันแบบผสมผสาน ทั้งการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิส จัดบริการที่เป็นมิตร และเอื้อต่อการเข้ารับบริการวัยรุ่น
"การใช้ถุงยางอนามัย ปลอดภัย ชี้ให้ประชาชนมีเจตคติที่ว่า ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์สุขอนามัยที่ใช้ในการดำเนินชีวิตปกติ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางเพศ และสามารถป้องกันปัญหาสุขภาพได้หลายด้านพร้อมๆ กัน"
ดร.นายแพทย์ สุวิช กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในวันวาเลนไทน์ปีนี้ สคร.12 สงขลา โดยหน่วยกามโรคและโรคเอดส์ที่ 12.1 หาดใหญ่ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อเอชไอวี พร้อมทั้งแจกถุงยางอนามัยในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนป้ายไวนิลวันรณรงค์เนื่องในวันวาเลนไทน์ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อเอชไอวี แก่สำนักงานสาธารณสุข และโรงพยาบาลในพื้นที่เขต 12 และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422