กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป' หรือ ZEN พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 20 ก.พ.นี้ หลังนักลงทุนสถาบันและรายย่อยตอบรับจองซื้อหุ้นIPO อย่างคึกคัก จากความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจ มั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดี ด้านผู้บริหาร ชูจุดแข็งเป็นผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสอย่างเต็มรูปแบบที่มีทั้งธุรกิจร้านอาหาร แฟรนไชส์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมเตรียมแผนรุกใหญ่ขยายร้านอาหารในปี 62 – 63 รวมกันอีกกว่า 340 สาขา จากปัจจุบันที่มี 255 สาขา เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว
นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") หรือ ZEN เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่อย่อ 'ZEN' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังจากที่ปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ได้ตามเป้าหมาย โดยนักลงทุนสถาบันและรายย่อยได้จองซื้อหุ้น IPO อย่างคึกคัก ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและจุดแข็งของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส (Food Services) อย่างเต็มรูปแบบ ที่มีทั้งธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจแฟรนไชส์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจบริการจัดส่งอาหารและบริการจัดเลี้ยง ธุรกิจให้บริการบริหารร้านอาหารและที่ปรึกษาเกี่ยวกับร้านอาหาร และธุรกิจอาหารค้าปลีก เช่น อาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทาน ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านอาหารทั้งสิ้น 12 แบรนด์ รวม 255 สาขา แบ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ จำนวน 88 สาขา ได้แก่ 1. ZEN 2. Musha by ZEN 3. Sushi Cyu Carnival Yakiniku 4. AKA 5. Testu และ 6. On the Table Tokyo Cafe และร้านอาหารไทยอีก 6 แบรนด์ จำนวน 167 สาขา ได้แก่ 1. ตำมั่ว 2. ลาวญวน 3. แจ่วฮ้อน 4. เฝอ5. de Tummour และ 6. เขียง ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยตามสั่งหรือ Street Food แบรนด์ใหม่ที่นำเสนออาหารไทยจานเดียว เปิดบริการสาขาแรกที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาเจษฎาบดินทร์ จ.นนทบุรี
สำหรับปี 2562 – 2563 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาร้านอาหารเพิ่มขึ้นอีก 348 สาขา แบ่งเป็นการลงทุนในปีนี้จำนวน 123 สาขา ผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ 87 สาขาและลงทุนเอง 36 สาขา ขณะที่ปี 2563 จะเพิ่มสาขาอีก 225 สาขา เป็นแฟรนไชส์ 175 สาขาและลงทุนเอง 50 สาขา เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 9 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – กันยายน 2561) มีอัตราการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 2,226.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 108.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น
"เราพร้อมขยายสาขาอย่างเต็มที่ในช่วง 2 ปีนับจากนี้ หลังจากได้ลงทุนด้านระบบบริหารจัดการภายในองค์กรและการเสริมทีมบุคลากรไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับเรามีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมีเป้าหมายที่ต้องการยกระดับองค์กรไปสู่การเป็นผู้นำธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส ในประเทศไทย และมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง" นายบุญยง กล่าว
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ปัจจุบัน ZEN เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสชั้นนำในประเทศไทย โดยถือเป็นผู้บุกเบิกร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นรายแรกๆ ในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น 'ZEN' และได้มีการขยายแบรนด์ใหม่ๆ และสาขาเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มที่มีกำลังซื้อระดับล่าง กลาง และบน นอกจากนี้ ZEN ยังได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานเพื่อขยายฐานลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน การดำเนินธุรกิจของ ZEN ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ จึงได้รับผลดีจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัวและธุรกิจร้านอาหารที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของรายได้ประชากรและการเติบโตของหัวเมืองใหญ่ โดยนับจากปี 2555 – 2560 ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารมีอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณ 4.7% ต่อปี หรือมีมูลค่าตลาดรวมในปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 8.4 แสนล้านบาท ขณะที่ Euromonitor International คาดการณ์ในปี 2565 มูลค่าตลาดธุรกิจร้านอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.05 ล้านล้านบาท