กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่สามารถแจ้งความประสงค์ขอรับน้ำจาก กปภ.สาขา ที่ใกล้ที่สุดเพื่อนำไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ในทันที
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 จนถึงเดือนเมษายน 2562 เป็นช่วงฤดูหนาวไปจนถึงฤดูร้อนระยะเวลาถึง 6 เดือน ที่อาจไม่มีฝนตกลงมาเติมน้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ส่งผลให้หลายพื้นที่ต้องประสบกับภัยแล้งขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค กปภ. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ผลิตและให้บริการจำหน่ายน้ำประปาใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ โดย กปภ. ทั้ง 234 สาขาทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับมือเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำดิบในช่วงฤดูแล้งนี้ ด้วยการวางมาตรการและแนวทางการให้บริการ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านแหล่งน้ำดิบ กปภ. เน้นย้ำให้ทุกสาขา สำรวจและประเมินปริมาณน้ำดิบพร้อมวางแผนบริหารจัดการให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาตลอดฤดูแล้งนี้ควบคู่กับการสำรวจแหล่งน้ำที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม สำหรับใช้เป็นแหล่งน้ำดิบสำรองในกรณีเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำดิบ พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมหากจำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำดิบสำรอง ด้านการผลิตและจ่ายน้ำ กปภ. จัดเตรียมกำลังคน รถยนต์บรรทุกน้ำ พร้อมตรวจสอบสภาพเครื่องสูบน้ำ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้พร้อมสำหรับการใช้งานได้ตลอดเวลา และประสานงานกับ กปภ.สาขาใกล้เคียงที่มีศักยภาพ เพื่อเตรียมการเพิ่มกำลังผลิต และส่งน้ำประปาไปช่วย กปภ.สาขาที่ขาดแคลนน้ำ ด้านการช่วยเหลือประชาชน กปภ. พร้อมสนับสนุนน้ำประปาโดยไม่คิดมูลค่าให้แก่รถบรรทุกน้ำของส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะรับน้ำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสนำน้ำไปจำหน่าย จึงขอให้หน่วยงานส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนพร้อมระบุหมายเลขรถบรรทุกน้ำด้วย ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PWA Contact Center 1662
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. ต้องขอความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ภายใต้แนวคิด "Save Water, you make it : ประหยัดน้ำ คุณทำได้" โดยการปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรประจำวันควบคู่กับตรวจสอบระบบประปาภายในอาคารบ้านเรือนว่ายังสามารถใช้งานได้ดี ไม่มีจุดแตกรั่ว ซึ่งทำให้สูญเสียทรัพยากรน้ำไปอย่างเปล่าประโยชน์และยังเป็นสาเหตุทำให้ค่าน้ำในบ้านของผู้ใช้น้ำสูงผิดปกติอีกด้วย เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้มีทรัพยากรน้ำไว้ใช้ไปยาวนาน