กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--Orange Mama
"ตู่ นันทิดา" ตัวแม่ดีว่าเมืองไทย เสพติดช้อปปิ้ง ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า?
เป็นดีว่าตัวแม่ของเมืองไทยที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี สำหรับ ตู่ นันทิดา ที่เจ้าตัวนั้นบ้าช้อปปิ้งหนักมาก ถึงขั้นเสพติดการช้อปปิ้งกันเลยทีเดียว
ล่าสุด ตู่ ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และนุ้ย สุจิรา เป็นพิธีกร ถึงเส้นทางการเป็นนักร้องว่า เราไม่เคยวาดฝันไว้เลย มันมีความบังเอิญ และจังหวะชีวิตที่มันเป็นแบบนั้น เราเริ่มจากการประกวด แล้วมีครูมาเกาหลีมาสอนที่บ้าน
แล้วอะไรที่ทำให้พี่ไม่อยากร้องเพลงแล้ว?
ตู่ : ตอนนั้นแสดงภาพยนตร์เพลงรักดอกไม้บาน ก็มีร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ และมีเพลงลูกทุ่งที่ดังมาเรื่อยๆ จนอัดแผ่นเทป แต่ข้างในรู้สึกดาวน์ ตอนนั้นไม่รับอะไรอีกแล้ว แต่เรากลับมามีไฟอีกครั้ง หลังได้ร้องเพลงสากลของตัวเอง พอเข้ามาแกรมมี่ก็มีเพลงแจ้งเกิดเพลง เกือบไปแล้ว แล้วก็เพลงดีเจเสียงใส
พี่ตู่เคยประสบอุบัติเหตุกระดูกต้นคอมีปัญหา?
ตู่ : เล่นละครเวที บังเอิญวิ่งชนไหล่คนคนนึงที่เล่นด้วยกัน ตอนนั้นรู้สึกทุกอย่างนิ่งไปหมด ก้าวขาไม่ได้ แต่เราก็เล่นต่อเพราะอีกนิดเดียวก็จบแล้ว จบวันนั้นก็ไปโรงพยาบาลทันที คุณหมอบอกว่ายังโอเค อนุญาตให้กลับไปเล่นพรุ่งนี้ได้ แต่พอเล่นไปทั้งหมด 51 รอบ แต่ประมาณรอบที่ 40 ต้องเลิก หมอบอกว่าไม่ได้แล้วต้องผ่าตัด ตอนนั้นหมอบอกว่าพอผ่าตัดเสร็จการร้องเพลงอาจจะไม่เหมือนเดิม เนื่องจากจุดตรงนั้นมันใกล้สายเสียงมาก
แล้วเวลาพี่เสียงแหบต้องอัดยามั้ย?
ตู่ : พูดกันตรงๆ มันต้องใช้สเตยรอยด์ มันอันตรายมาก มันทำลายกระดูก อย่าทำ อย่าจำ มันไม่ดีเลย แต่ตอนนั้นมันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก วันนึงมีงาน 5 งาน ช่วงนั้นค่อนข้างฉีดบ่อย แต่ว่าหลังๆ มันมีอะไรที่เป็นแพทย์ทางเลือกเข้ามา
พี่ผ่านอะไรมาเยอะ ประสบความสำเร็จมาเยอะมาก แต่สิ่งที่พี่กลัวคือความไม่มั่นใจในตัวเอง?
ตู่ : เป็นคำถามที่คนสงสัยเยอะมาก แต่คนใกล้ตัวจะรู้มาก จะสร้างความวิตกกังวลจนคนใกล้ตัวนอยด์ไปด้วย เวลาที่ขึ้นเวที ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตื่นเต้นหมด เรากลัวว่าพลาดแล้วไม่มีโอกาสที่จะแก้ตัว พี่เป็นแบบนี้มาตลอด
จริงมั้ยที่พี่ตู่เสพติดการช้อปปิ้ง?
ตู่ : พี่เป็นคนที่ซื้อของแต่มีเหตุผล การช้อปปิ้งพี่สามารถทำตามใจตัวเองได้ทุกอย่าง มันเริ่มจากคุณแม่พี่เลย เขาชอบแต่งตัว ชอบช้อปปิ้งด้วย แต่พี่ซื้อแค่เสื้อผ้าอย่างเดียว
เมื่อพูดถึงคุณแม่แล้วขอถามถึงคุณพ่อที่พี่บอกว่าเป็นคนผลักดันพี่มาถึงวันนี้ พ่อให้อะไรพี่บ้าง?
ตู่ : สิ่งให้เรียนรู้ เราเห็นคุณพ่อ คุณแม่ให้กับทุกคนตลอด สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อให้พี่มาตลอดคือให้ชีวิตที่มีค่าสอนชีวิตให้พี่รู้ว่าลูกต้องเดินยังไง มีแผ่นที่ชีวิตให้ลูก โดยที่เราเชื่อฟัง พี่รู้สึกว่าพี่ไม่เคยมีบทลงโทษจากคุณพ่อ คุณแม่ เวลาทำผิด พี่รู้สึกว่าเวลามีอะไรคนแรกที่เราจะบอกคือป๋า พี่ใช้วิธีเดียวกันมาเลี้ยงดูน้องเพลง
คุณพ่อสอนจนวินาทีสุดท้ายเลย?
ตู่ : ตอนนั้นจำได้ว่าอยู่ในห้อง ไอซียู พี่มีความรู้สึกอยากขอโทษคุณพ่อ พี่บอกว่า ป๋าโกรธตู่มั้ย ตู่ช้อปปิ้งตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ก็ยังช้อปปิ้ง ป๋าบอกว่าไม่เลย ก็ป๋าเลี้ยงตู่มา ป๋าให้ลูกเรียนนู้น นี่นั่น จนลูกไม่มีเวลา ลูกไม่ชอบลูกก็ทำ ลูกไม่อยากเป็นนักร้องลูกก็เป็น ลูกทำมาตลอด ลูกมาได้รางวัลตอนอายุ 16 ปี ลูกไม่มีชีวิตวัยรุ่น ชีวิตลูกหายไป เพราะฉะนั้นการที่ลูกช้อปปิ้งมันไม่ใช่เรื่อง คือมันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราคิดมาตลอด อยากขอโทษ ป๋าบอกว่ายกโทษให้ลูกทั้งหมด แล้วป๋าบอกว่า ลูกจำได้ไหมป๋าเป็นภูมิแพ้ แล้วพี่ก็เป็นภูมิแพ้เหมือนกัน ตอนที่พี่ป่วยพี่ต้องฉีดยา อาทิตย์ละ 2 เข็มฉีดมา 30 กว่าปี คุณพ่อพี่ก็ฉีดเหมือนกัน เขาก็ถามว่าลูกรู้มั้ยทำไมป๋าไม่ได้ฉีดยาแล้ว ป๋าบอกว่าวันที่ลูกได้รับรางวัลป๋าไม่ป่วยอีกเลย คุณพ่อพี่หายจากภูมิแพ้เลย แล้วป๋าพูดมาคำนึงว่า ขอบคุณลูกที่ลูกที่ลูกไม่กลฏ ลูกซื่อสัตย์ทำงานมาตลอด
วินาทีที่คุณพ่อจะจากไป คุณยังจากฟัฃเพลงของพี่?
ตู่ : แน่นอน ตอนนั้นพี่ร้องเพลง to yong ให้ท่านฟังแล้วท่านก็หลับตาลง
แต่นอกเหนือจากการร้องเพลงแล้ว สิ่งที่รักมากที่สุดคือลูกสาว?
ตู่ : ที่สุด เขาเป็นของขวัญที่มีค่าในแก้วบัวสาย คุณยายจะพูดเสมอ ตอนนี้น้องเพลงเรียนอยู่อังกฤษ อีกปีเดียวจบแล้ว
เวลาลูกเที่ยวไปเที่ยวกับลูก ไม่ได้ห้ามลูก เวลาลูกดื่ม ก็ดื่ม?
ตู่ : เรื่องดื่มไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่ว่าส่งเสริมลูกดื่ม
คุณพ่อน้องเพลงปิดผับให้ลูกกับเพื่อนเพื่อความปลอดภัย?
ตู่ : ผลปรากฎว่าหลับ ยัยเพลงบอกว่าไม่อร่อย เพลงสามารถใช้ชีวิตกับเพื่อนที่เอ็นจอย หิ้วเพื่อนกลับบ้านเป็นต้น สนุก อยู่ได้เรียนรู้อะไรที่ไม่ชอบ
ไม่ปิดเรื่องดื่ม เรื่องแฟนก็ไม่ปิด?
ตู่ : อยู่ในวัยที่สมควร เดี๋ยวนี้ 15-16 ปี ก็เริ่มมีแฟนแล้ว ก็ได้ไงแต่ห้ามจับมือห้ามไปดูหนัง ทุกคนที่จีบน้องเพลงก็เลิกกันไปหมดเลย เรื่องการให้กำลังใจลูกบางทีเราไม่ต้องพูดแค่มองตากันก็เข้าใจ พี่จะบอกลูกตลอดว่าอย่าทิ้งพระธรรม พระคัมภีร์ สัญญากับแม่นะ พี่ห่วงที่สุดแต่ไม่ได้ห่วงว่าเขาจะไปทำอะไรไม่ดีพี่เลี้ยงลูกเองรู้ว่าลูกเป็นคนยังไง แต่ห่วงที่สุดว่าเวลาที่มีอะไรเข้ามาเยอะๆ ลูกไหวมั้ยกับตรงนี้
ลูกสาวเติมเต็มชีวิตพี่ให้สมบูรณ์?
ตู่ : ใช่เลย ทุกวันนี้พี่ต้องขอบคุณลูกที่ได้มาเติมเต็ม พี่ก็เป็นแม่ที่ทำหน้าที่ไม่ได้สมบูรณ์ บางทีพี่ก็เรียนรู้ไปกับลูก
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ ตู่ นันทิดา
https://youtu.be/DHYal1y2x1U