กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ทีโอที
ทีโอที จับมือ ผู้แทนกิจการร่วมค้าอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลอปเมนท์ จำกัด และสยามไฟเบอร์ออฟติค เพื่อร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet) วางเคเบิลใยแก้วนำแสงคุณภาพสูง FTTx ในพื้นที่จังหวัดภูเภ็ต เพื่อรองรับการให้บริการได้ถึง 1 Gb/s.
นายกิตติพงศ์ เตมียะประดิษฐ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายวิรัช ก้องมณีรัตน์ ผู้แทนกิจการร่วมค้าอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลอปเมนท์ จำกัด และนายซุน ทาว เฮิน บริษัท สยามไฟเบอร์ออฟติก จำกัด ร่วมลงนามในสัญญาจ้างเหมาวางเคเบิลใยแก้วแบบ FTTxในพื้นที่จังหวัดภูเภ็ต มูลค่าโครงการ 136,800,000 บาท (หนึ่งร้อยสามสิบหกล้านแปดแสนบาทถ้วน) โดยจะเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 2551
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า “การให้บริการ FTTx ถือเป็นการนำเทคโนโลยี Triple Play มาใช้กับธุรกิจของทีโอทีเป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งบ้านพักอาศัย และอาคารสำนักงาน มีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูง ที่เชื่อมต่อได้ทั้งกับระบบเสียง ข้อมูล และวิดีโอ โดยสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงที่ลงทุนในครั้งนี้จะต่อเชื่อมเข้ากับระบบของเคเบิลทีวีท้องถิ่น ทำให้ผู้ใช้บริการเคเบิลสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตและเชื่อมต่อด้วยระบบอินเทอร์แอคทีฟได้ทันที”
กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้จะมุ่งเน้นบริการลูกค้าระดับบนที่มีรายได้ค่อนข้างสูง หรือระดับ Premium เช่น ลูกค้ากลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มผู้รับชมเคเบิลทีวีท้องถิ่น ประมาณ 4,000 ราย นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าชาวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวและประกอบธุรกิจภายในประเทศ และรองรับโครงการ IT City ในจังหวัดภูเก็ต โดยบริการที่รองรับนอกจากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงปกติแล้ว ยังสามารถใช้บริการรับชมเคเบิลทีวีในแบบความละเอียดสูง หรือ HDTV รวมถึง IPTV และการซื้อภาพยนตร์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่กำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับรายละเอียดทางด้านเทคนิคนั้น ทางผู้รับจ้างได้นำเสนออุปกรณ์เครือข่ายที่มีความสามารถสูงอย่าง Gigabit Ethernet Passive Optical Network (GE-PON) จาก Fujikura ซึ่งเป็นผู้ผลิตจากญี่ปุ่น โดยมีบริษัท NTT-West เป็นบริษัทที่ปรึกษา โดยโครงการนี้จะสามารถติดตั้งแล้วเสร็จและให้บริการได้ประมาณปลายปีนี้ และมีความเร็วสูงสุดในการให้บริการคือ 1 Gb/s.
“โครงการนี้ถือเป็นต้นแบบ คาดว่าจะสามารถทำคอนเวอร์เจนซ์ระหว่างธุรกิจสื่อสารกับสื่อโทรทัศน์ของ ทีโอที ซึ่งเป็นแผนงานที่ทีโอทีวางแผนเอาไว้มาโดยตลอด ซึ่งหากมีการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้จะมีการประเมินผลความพึงพอใจของการใช้งาน และผลตอบรับทางการลงทุน เพื่อนำไปสู่โครงการนี้ในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป” นายกิตติพงศ์ กล่าว”