กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นมาที่ระดับ ‘A-(tha)’
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวแก่หนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ขึ้นมาที่ระดับ ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha)) จากระดับ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ TTA สะท้อนถึงแนวโน้มอัตราการรับชำระหนี้คืน (Recovery Prospects) ของหนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัทออกหุ้นกู้แปรสภาพไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิจำนวน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำมาชำระคืนเงินกู้ที่มีหลักประกันเพื่อใช้ในการซื้อเรือเดินทะเล ซึ่งทำให้ระดับหนี้สินที่มีหลักประกันของบริษัทได้ปรับลดลงอย่างมาก โดยลดลงมาอยู่ที่ 38% ของหนี้สินรวม 12% ของสินทรัพย์รวม และ 0.5 เท่าของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ณ สิ้นปีงบการเงิน 2550 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550) เมื่อเปรียบเทียบกับ 100% ของหนี้สินรวม 39% ของสินทรัพย์รวม และ 1.6 เท่าของ EBITDA ณ สิ้นปีงบการเงิน 2549 นอกจากนั้น อัตราส่วนมูลค่าตามบัญชีสุทธิของสินทรัพย์ถาวรต่อหนี้สินที่มีหลักประกัน (Net Book Value of Fixed Assets/Secured Debt) ของบริษัทยังได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.5 เท่า จาก 1.9 เท่า ณ สิ้นปีงบการเงิน 2549 อย่างไรก็ตาม ฟิทช์กล่าวว่าแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของ TTA น่าจะทำให้ระดับหนี้สินที่มีหลักประกันของบริษัททยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 20% ของสินทรัพย์รวม และ 1.5 เท่า ของ EBITDA
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่มั่นคงของบริษัทในธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกอง (Dry Bulk Shipping) ขนาดเล็กถึงกลางโดยเฉพาะเส้นทางเดินเรือระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง และกลยุทธ์การจัดการกองเรือที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากความผันผวนของความต้องการขนส่งสินค้าแห้งเทกองและอัตราค่าระวางเรือ (Freight Rates) ที่ส่งผลกระทบต่อ TTA น่าจะถูกลดทอนลงบางส่วนจากการให้บริการทั้งทางด้านการเดินเรือแบบประจำเส้นทางและแบบไม่ประจำเส้นทาง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานที่ไม่ได้มาจากธุรกิจเดินเรือ โดยมาจากธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (Offshore Services Business) เป็นหลัก การที่บริษัทมีแผนการดำเนินงานระยะยาวที่จะทำสัญญาล่วงหน้าประมาณ 30% ของระวางบรรทุกสินค้าทั้งหมด เป็นสัญญาเช่าเหมาลำแบบเป็นระยะเวลา (Time Charters) น่าจะช่วยสร้างผลกำไรที่ค่อนข้างแน่นอน และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งบางส่วนให้กับบริษัทได้ ถึงแม้สัดส่วนดังกล่าวได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 22% ณ สิ้นปีงบการเงิน 2550 จาก 42% ณ สิ้นปีงบการเงิน 2549 เนื่องจากบริษัทต้องการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นจากอัตราค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นมากในระหว่างปี นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีปัจจัยสนับสนุนจากฐานะทางการเงินและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของบริษัทอีกด้วย
ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตถูกลดทอนลงด้วยปัจจัยเสี่ยงในด้านความผันผวนของวัฏจักรธุรกิจเดินเรือ และอัตราค่าระวางเรือ รวมถึงลักษณะโดยรวมของธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกองที่มีผู้ประกอบการหลายราย นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทในการจัดซื้อเรือใหม่เพื่อทดแทนเรือเก่าที่จะปลดระวางและการขยายธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง โดยบริษัทมีแผนที่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการจัดซื้อเรือใหม่ และอีกประมาณ 250 ถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการสั่งต่อเรือขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลใหม่ในระหว่างปีงบการเงิน 2551 ถึง 2556 แผนการลงทุนดังกล่าวน่าจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA) ของ TTA ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1 เท่า ถึง 2 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (Adjusted Net Debt/EBITDAR) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2 เท่า ถึง 3 เท่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวอาจปรับลดลงอย่างมาก ถ้าหุ้นกู้แปรสภาพของบริษัทได้ถูกแปรสภาพเป็นหุ้นสามัญในระหว่างปีงบการเงิน 2553 ถึง 2555 นอกจากนี้ บริษัทยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากการที่มีปริมาณเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมากกว่าความต้องการขนส่งสินค้าแห้งเทกองในตลาด เนื่องจากปริมาณการสั่งต่อเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองใหม่ที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวที่มีต่อ TTA น่าจะถูกลดทอนลงบางส่วน เนื่องจากประมาณ 74% ของปริมาณการสั่งต่อเรือใหม่เป็นการสั่งต่อเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองที่มีขนาดใหญ่กว่าประเภทของเรือที่บริษัทดำเนินงานอยู่
ในปีงบการเงิน 2550 TTA มีรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากอัตราค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับที่สูงมาก ถึงแม้อัตราค่าระวางเรือจะปรับเพิ่มขึ้น อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ของบริษัทยังคงเดิมอยู่ที่ประมาณ 36% เมื่อเทียบกับปีงบการเงิน 2549 ที่ประมาณ 35% โดยเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการเดินเรือที่เพิ่มสูงขึ้นและระยะเวลาที่เรือขุดเจาะน้ำมันไม่ได้ปฏิบัติการที่ค่อนข้างยาว ดังนั้น บริษัทมี EBITDA 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า TTA มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี โดยบริษัทมีเงินสดจำนวน 3.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 และวงเงินสินเชื่อจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 396 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้ในการซื้อเรือเดินทะเลเป็นหลัก นอกจากนี้ บริษัทยังมีเรือเดินทะเลที่ปลอดภาระจำนองบางส่วนอีกด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า TTA จะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่มั่นคงของบริษัทในธุรกิจเดินเรือประเภทสินค้าแห้งเทกองขนาดเล็กถึงกลาง กลยุทธ์การจัดการกองเรือที่มีความหลากหลาย และการรักษาระดับหนี้สินให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำได้
ติดต่อ
โสมสิริ ชฎาวัฒน์ +662 655 4753, เลิศชัย กอเจริญรัตรกุล +662 655 4760, Vincent Milton +662 655 4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลาหลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน