กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศเจตนารมณ์ "ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม" เพื่อรณรงค์บุคลากรของหน่วยงาน ทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ ร่วมกันลดการใช้ถุงพลาสติก แก้วพลาสติก กล่องโฟมบรรจุอาหารและคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถังขยะ เพื่อสนองต่อนโยบายของรัฐบาลตามมาตรการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในอาคารสำนักงานและพื้นที่ของหน่วยงาน ตามติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ซึ่งทุกส่วนราชการต้องปฏิบัติพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ภาคเอกชนและประชาชนในการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยของประเทศ
โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการและบุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหารและคัดแยกขยะก่อนทิ้ง พร้อมทั้งจะสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์และประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ เพื่อเผยแพร่และปลูกจิตสำนึกในร่วมกันรักษาความสะอาดและมีระเบียบในสถานที่ต่าง ๆ และส่งเสริมให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกหูหิ้ว ใช้แก้วน้ำหรือขวดน้ำแบบสแตนเลสหรือเซรามิคที่สามารถใช้ซ้ำได้ใหม่และใช้ได้เวลานาน เพื่อลดการใช้แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และงดใช้โฟมบรรจุอาหาร พร้อมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก เพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป
สำหรับการคัดแยกขยะ ได้แบ่งประเภทขยะ ออกเป็น 4 ประเภทและจะแยกถังขยะไว้รองรับขยะแต่ละประเภทอย่างชัดเจน ซึ่งถังขยะจะเป็นเป็น 4 สีตามประเภทของขยะ 4 ประเภท แบ่งเป็น ขยะย่อยสลายได้ หรือขยะอินทรีย์ คือ เศษอาหาร เศษใบไม้ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ต้องทิ้งลงถังขยะสีเขียว ขยะรีไซเคิล หรือขยะแห้ง เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก เช่น แก้ว กระดาษ โลหะ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ต้องทิ้งลงถังขยะสีเหลือง ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีองค์ประกอบหรือปนเปื้อนวัตถุอันตรายชนิดต่าง ๆ เช่น สารพิษ หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์ เป็นต้น ซึ่งจะต้องนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีและทิ้งลงถังขยะสีแดง ขยะทั่วไป เป็นขยะที่นอกเหนือจากขยะย่อยสลายได้ มีลักษณะย่อยสลายยาก ไม่คุ้มค่าต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ซองขนม กล่องโฟม ทิ้งลงถังขยะสีฟ้า ซึ่งการคัดแยกขยะเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือของ ทุกภาคส่วน เพื่อลดขยะมูลฝอยในพื้นที่ต่าง ๆ และคัดแยกขยะที่สามารถนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ได้ใหม่ เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะต้องมีการณรงค์และปลุกฝังจิตสำนึกในการร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมพื้นที่ของหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง และร่วมกันจะเผยแพร่สิ่งดี ๆ เหล่านี้ออกไปสู่ชุมชนและสังคมภายนอกด้วย เพื่อสร้างเมืองไทยให้มีความสะอาด เป็นระเบียบ เป็นสังคมที่น่าอยู่และปลอดภัยต่อไป