กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เตือนผู้ใช้ยางรถยนต์มือสองหรือยางเปอร์เซ็นต์ควรหมั่นตรวจสอบลมยางและสภาพยางเป็นประจำ โดยเฉพาะรถที่ต้องใช้งานรับน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดยางระเบิดได้ พร้อมแนะหากเกิดยางระเบิด ควรจับพวงมาลัยให้มั่น แล้วรีบนำรถเข้าข้างทาง ไม่ควรเบรกกะทันหัน เพราะอาจทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำได้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ยางรถยนต์มือสองเพิ่มมากขึ้นและยางรถยนต์ก็มีส่วนสำคัญต่อความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะต้องรับความเร็ว แรงเสียดทานและน้ำหนักทั้งหมด ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากยางระเบิดได้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยางระเบิดคือ การนำยางรถยนต์ที่ใกล้หมดสภาพ (ยางเปอร์เซ็นต์หรือยางมือสอง)มาใช้งาน จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะผู้ใช้รถควรหมั่นตรวจสอบอาการเบื้องต้นของยางเสื่อมคุณภาพ ซึ่งเป็นอาการเตือนก่อนยางระเบิด ดังนี้ ลมยางอ่อนบ่อยโดยไม่พบรอยรั่ว มีอาการบวมที่หน้ายางหรือแก้มยาง เวลาเบรกมีเสียงดังที่ยางคล้ายการเบรกอย่างรุนแรง พวงมาลัยหรือตัวรถมีอาการสั่นทั้งๆ ที่ได้ทำการถ่วงล้อหรือ ตั้งศูนย์แล้ว หากรถมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรนำรถไปให้ช่างตรวจสอบสภาพยางหรือเปลี่ยนยางใหม่ในทันที
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ยางระเบิด ควรจับพวงมาลัยให้มั่นคงและบังคับรถเข้าข้างทาง ไม่ควรเบรกกะทันหัน จะทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำได้ ควรใช้เกียร์ต่ำเพื่อชะลอลดความเร็ว กรณียางระเบิดที่ล้อหลังท้ายรถจะส่าย ควรจับพวงมาลัยให้มั่นคง พยายามย้ำเบรกหลายๆครั้งติดต่อกัน เพื่อให้น้ำหนักรถตกอยู่ล้อข้างที่ใช้งาน หากยางล้อหน้าระเบิดควรจับพวงมาลัยให้มั่นคง แตะเบรกให้เบาที่สุด และรีบนำรถเข้าข้างทาง นอกจากนี้ พฤติกรรมการขับรถก็เป็นส่วนหนึ่งของการถนอมอายุยางรถยนต์เช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ควรออกรถ หยุดรถ หรือหักเลี้ยวอย่างแรง หลีกเลี่ยงหลุมบ่อหรือสิ่งกีดขวาง เติมลมยางตามค่าความจุของรถที่กำหนด สลับยางและถ่วงล้อตามระยะเวลา และระยะทางที่กำหนด เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการนำยางมือสองหรือยางเปอร์เซ็นต์มาใช้งาน อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประสบอุบัติเหตุได้ หากผู้ขับรถนำยางเก่ามาใช้งาน ควรหมั่นตรวจสอบสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถที่ต้องใช้งานรับน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา