กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD ทุบสถิติทำรายได้ปี 2561 อยู่ที่ 3,208 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดกว่า 32% กำไรสุทธิ 252.1 ล้านบาท เติบโตกว่า 23% หลังนำเงินจากการขายทรัพย์สินให้แก่กองทรัสต์ มาใช้ขยายการลงทุนได้ตามแผนงานและสามารถสร้างรายได้และผลกำไรที่ดี ส่งผลบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท พร้อมไฟเขียวเข้าลงทุนถือหุ้น 23.66% ในบริษัท TRANSIMEX CORPORATION ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรรายใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนาม ด้านผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2562 เติบโต 15-20%
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญพิเศษทุกซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2561 สามารถสร้างรายได้ทุบสถิติและดีกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10% หลังบริษัทฯ นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์ AIMIRT มาใช้ขยายการลงทุนใหม่ได้ตามแผนงาน เช่น การเข้าลงทุนถือหุ้น 60% ใน CSLF บริษัทผู้ประกอบธุรกิจให้บริการอาหาร (Food Service) ในประเทศไต้หวัน ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา ประกอบกับธุรกิจหลักส่วนใหญ่สามารถขยายตัวได้ดี ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา มีรายได้จากการให้เช่าและ บริการ 3,208 ล้านบาท เติบโต 32.4% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,423.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 252.1 ล้านบาท เติบโต 23.3% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ (ก่อนบันทึกกำไรพิเศษจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์) ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 204.5 ล้านบาท
โดยธุรกิจที่มีอัตราเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา ได้แก่ (1) ธุรกิจห้องเย็น มีรายได้ 604 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 34.4% ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับจากเกิดปัญหาใบเหลืองIUU Fishing เมื่อปี 2560 (2) ธุรกิจขนส่งสินค้า มีรายได้ 497.1 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 31% เนื่องจากได้รับงานยกขนตู้รถไฟ ขนส่งยานยนต์และสินค้าอันตรายเพิ่มขึ้น (3)ธุรกิจบริหารจัดการสินค้าอันตราย มีรายได้ 497.3 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 7.5% (4) ธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปมีรายได้ฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จากบริการคลัง LCL และลูกค้าหลายรายกลับเข้ามาเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น (5) ธุรกิจบริการอาหาร ที่มีการรับรู้รายได้หลังจากเข้าลงทุนใน CSLF ในปีที่ผ่านมา รวม 399.8 ล้านบาท
"แม้ว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายการเช่ากลับห้องเย็นและคลังจัดเก็บเอกสารที่จำหน่ายให้แก่กองทรัสต์ AIMIRT แต่เรายังสามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี ซึ่งสะท้อนว่าเราสามารถนำเงินมาใช้ขยายการลงทุนเพื่อสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการเข้าลงทุนใน CSLF ที่เราเข้าไปปรับปรุงฐานะการเงินและเพิ่มขีดความสามารถทำกำไรที่ดีขึ้น และในอนาคตยังช่วยส่งเสริมต่อการดำเนินธุรกิจห้องเย็นของเราในอาเซียนอีกด้วย" ดร.เอกพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี (จากงบการเงินเฉพาะกิจการ) ในปี 2561 อัตราหุ้นละ 0.21 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 214.2ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตรา 78.9% ของกำไรสุทธิจากการเงินเฉพาะกิจการ บริษัทฯ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (record date) วันที่ 8 เดือนพฤษภาคม2562 นี้ และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนรุกขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าขยายธุรกิจในอาเซียนครบ 9 ประเทศภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่ลงทุนแล้วใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา เมียนมาร์ สปป.ลาว อินโดนีเซีย (ไม่รวมไต้หวัน) ส่วนประเทศ สิงคโปร์และมาเลเซียจะดำเนินการผ่านเน็ตเวิร์คของ CJ Logistics ซึ่งเป็น partner JWD จากประเทศเกาหลี โดยล่าสุดที่ประชุมบอร์ดบริษัทฯ ได้อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนถือหุ้น 23.66% ในบริษัท TRANSIMEX CORPORATION ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยเตรียมจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยในเวียดนามเพื่อเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 527 ล้านบาท (ประมาณ390,000 ล้านดองเวียดนาม)
TRANSIMEX CORPORATION เริ่มก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2526 ถือเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนาม โดยมีรายได้ปีที่ผ่านมาประมาณ 3,000 ล้านบาท มีฐานธุรกิจหลักอยู่ในเมืองโฮจิมินห์และฮานอย มีพื้นที่ให้บริการคลังสินค้ากว่า 1.2 หมื่นตารางเมตร พื้นที่ลานจัดเก็บสินค้ากว่า 1 แสนตารางเมตร โดยมีบริการที่หลากหลาย อาทิ Freight Forwarder หรือการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเรือและทางอากาศ, การรับจัดการพิธีการทางศุลกากร (Customs Clearance), บริการขนส่งสินค้า, ห้องเย็น, ท่าเรือ ฯลฯ การลงทุนในบริษัทฯ TRANSIMEX CORPORATION ถือเป็นก้าวที่สำคัญและเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ JWD เนื่องจากเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่มีศักยภาพสูง มี network ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยสร้างฐานธุรกิจที่เข้มแข็งในประเทศเวียดนาม
ขณะที่ปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% โดยมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเตรียมรับส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน TRANSIMEX CORPORATION ตั้งแต่ปีนี้ต้นไป ธุรกิจบริการอาหารมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากบริการเสริมต่างๆ ให้กับลูกค้าร้านสะดวกซื้อและฟาสต์ฟู๊ดในประเทศไต้หวัน ส่วนธุรกิจห้องเย็นเตรียมเปิดให้บริการห้องเย็นใหม่ ซึ่งเป็นอาคาร 8 ที่ติดตั้งระบบโรโบติกส์ในช่วงกลางปีนี้เพื่อรองรับความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นและสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และธุรกิจคลังและขนส่งข้ามแดนในอาเซียนมีการขยายตัวต่อเนื่อง