กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ระบุไทยเตรียมจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในความร่วมมือ การพัฒนานวัตกรรม และ Startup ไทย เพื่อขับเคลื่อนไปสู่ระดับสากล ระหว่าง บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด และหน่วยงานพันธมิตรจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตั้งเป้าปีแรกมีผู้ประกอบการสนใจขอรับบริการไม่น้อยกว่า 50 ราย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการจัดตั้งบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่เรียกว่า InnoSpace (Thailand) ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมและสตาร์ทอัพ (Startup) อย่างครบวงจรในการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมอย่างยั่งยืนนั้น เพื่อให้การประสาน ขับเคลื่อน และการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้มีการประสานความร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในการส่งเสริมและพัฒนา Startup โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด และหน่วยงานพันธมิตรจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษ ฮ่องกงร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 08.00 – 12.30 น. ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซนทาราแกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว
ทั้งนี้ หน่วยงานของฮ่องกงที่จะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ ประกอบด้วย HKTDC ,HPA และ HK Cybersport ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการค้า การลงทุน และการพัฒนาธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HK Cyberport นั้นเป็นศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระดับแนวหน้าของเอเชียเพื่อส่งเสริมการพัฒนาฮ่องกงให้เป็นสมาร์ทซิตี้ มีสมาชิกกว่า 1,000 บริษัท ในขณะที่ อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จะเป็นองค์กรที่เชื่อมโยงระบบนิเวศในการสร้างและพัฒนาสตาร์ทอัพที่เน้นนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ที่เรียกว่า Deep Technology โดยประกอบด้วยพันธมิตรภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและจากต่างประเทศใน 3 ด้าน ได้แก่ พันธมิตรด้านการบ่มเพาะธุรกิจ พันธมิตรด้านองค์ความรู้ และพันธมิตรด้านการลงทุน
นายกอบชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีหน่วยงานที่ส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพจำนวนไม่น้อย โดยส่วนใหญ่จะเน้นด้าน Fin Tech หรือ Mobile Application แต่เรายังไม่สามารถสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพที่พัฒนานวัตกรรม Deep Tech ให้ออกสู่ตลาดได้ ซึ่ง Deep Tech ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้จะสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับนักลงทุนและสตาร์ทอัพ การจัดตั้ง Innospace (Thailand) จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ประสานความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาสตาร์ทอัพกับหน่วยงานจากต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญอย่างฮ่องกง โดยจะช่วยผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยเกิดและเติบโตได้อย่างมั่นคงสามารถรวมก้าวสู่ระดับสากลต่อไป โดยตั้งเป้าปีแรกว่าจะมีผู้ประกอบการขอรับบริการที่ Innospace (Thailand) ไม่น้อยกว่า 50 ราย