กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--กทม.
เขตหลักสี่ให้ข้าราชการ ลูกจ้างของเขตฯ คัดแยกขยะ นำไปขายสร้างรายได้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน สนองนโยบายกรุงเทพมหานครที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะเพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัด
นางสาวอมรรัตน์ กฤตยานวัช ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กทม. เปิดเผยว่า สำนักงานเขตหลักสี่กำชับให้ข้าราชการและลูกจ้างในแต่ละฝ่ายของสำนักงานเขตหลักสี่คัดแยกขยะมูลฝอยก่อนที่จะนำไปทิ้ง ได้แก่ กระดาษขาว-ดำ หนังสือพิมพ์ พลาสติก โลหะ กล่องนม ขวดแก้ว ขยะพิษ และขยะประเภทอื่นๆ ซึ่งการคัดแยกแบบหลายประเภทนี้เป็นการทำให้การขายขยะมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะประสานธนาคารขยะเคหะชุมชนบางบัวมารับซื้อขยะดังกล่าวทุกวันศุกร์ สำหรับเงินจากการขายขยะให้สะสมเพื่อนำไปทำบุญทอดผ้าป่าขยะที่เขตจะจัดขึ้นทุกปี ทั้งนี้เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ข้าราชการและลูกจ้างของสำนักงานเขตหลักสี่ ตระหนักและเห็นความสำคัญของการลดปริมาณขยะมูลฝอย รวมทั้งเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนทั่วไปเห็นถึงคุณค่าของขยะ ซึ่งสามารถนำไปขายสร้างรายได้เสริมครัวเรือนอีกทางหนึ่ง โดยได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา ในส่วนของปริมาณขยะที่แต่ละฝ่ายคัดแยกและจำหน่ายได้ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีดังนี้ กระดาษขาว-ดำ 113 กิโลกรัม พลาสติก 19.2 กิโลกรัม โลหะ 7.76 กิโลกรัม. กล่องนม 2.7 กิโลกรัม ขวดแก้ว 99 กิโลกรัม หนังสือพิมพ์ 45.1 กิโลกรัม ขยะพิษไม่มี ขยะประเภทอื่นๆ 74.7 กิโลกรัม รวมรายได้จากการขายขยะทั้งสิ้นเป็นเงิน 1,685 บาท
ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่กรุงเทพมหานครมีนโยบายลดปริมาณขยะ มูลฝอย โดยรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะและทิ้งอย่างถูกวิธี ได้แก่ ขยะเปียก(เศษอาหาร) ขยะรีไซเคิล และขยะพิษ(ประเภทหลอดฟูออเรสเซนต์ กระป๋องยาฆ่าแมลง กระป๋องสี เป็นต้น) เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ มูลฝอยที่กรุงเทพมหานครจะต้องนำไปกำจัด สำนักงานเขตหลักสี่จึงได้ให้ข้าราชการและลูกจ้างในแต่ละฝ่ายของสำนักงานเขตหลักสี่ดำเนินกิจกรรมดังกล่าว เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน
"จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน อาคารสำนักงานทุกแห่ง รวมทั้งประชาชนทุกครัวเรือนร่วมกันคัดแยกขยะซึ่งเป็นสิ่งที่ดำเนินการได้ไม่ยาก ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้อีกทาง และหากต้องการเพิ่มมูลค่าขยะขอให้คัดแยกขยะเช่นเดียวกับเขตหลักสี่กำลังดำเนินการ รวมทั้งขอให้ประชาชนมั่นใจว่าขยะที่ท่านคัดแยกแล้วกรุงเทพมหานครมิได้เก็บขนโดยนำไปปะปนกันแต่อย่างใด" นางสาวอมรรัตน์กล่าวในตอนท้าย