กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง
ในปัจจุบันการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ปานกลางและสูง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผลตอบแทนสูง ก็ย่อมมีความเสี่ยงสูงตามมา ทำให้การลงทุนนั้น สร้างความกังวลใจและไม่สบายใจให้กับนักลงทุนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งกลัวขาดทุน กลัวเศรษฐกิจไม่ดี กลัวล้มละลาย ทำให้ต้นทุนที่นอกจากตัวเงินที่ลงไป ยังมีต้นทุนเพิ่มที่เราอาจไม่รู้ตัว คือ "ความกังวลและความไม่สบายใจ" ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบคือ ความเครียด ความเจ็บป่วย หรือหนักที่สุด ก็คือโรคซึมเศร้า จึงเกิดคำถามตามมาว่า...แล้วจะทำอย่างไรถึงจะทำให้เราสามารถลงทุนอย่างสบายใจ?
คนทั่วไป เมื่อคิดจะลงทุน เริ่มต้นก็ต้องเปรียบเทียบว่าผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มกับความเสี่ยงและความสบายใจหรือไม่ และการลงทุนหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก เพราะได้รับผลตอบแทน คุ้มกับความเสี่ยง และสบายใจมากกว่า เพราะความผันผวนน้อย คือ อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ สำนักงาน หรือคอนโด เป็นต้น
การเริ่มต้นในการลงทุนอสังหาฯ โดยปกติ ก็ต้องเริ่มศึกษาแหล่งข้อมูลในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดูทำเล ราคาตลาด แนวโน้มราคาอนาคต พิจารณาความสามารถในการปล่อยเช่า ตลอดไปถึงขั้นตอนกู้เงินธนาคาร และมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย
การลงทุนอสังหาริทรัพย์ทั่วไปต้องเจออะไรบ้าง
เชื่อว่าหลายๆ คน เคยลงทุนในอสังหาฯ โดยทั่วๆไป ไม่ก็ซื้อบ้าน หรือคอนโด แล้วปล่อยเช่าเพื่อสร้างผลตอบแทน โดยอาจจะหาคนเช่าเองหรือผ่านนายหน้า และที่สำคัญ การปล่อยเช่าลักษณะนี้ ต้องปล่อยเช่าแบบรายเดือน รายปี ไม่สามารถปล่อยเป็นรายวันได้ตามข้อกฎหมาย ซึ่งการนำบ้านหรือคอนโดไปปล่อยเช่าเอง ก็พบเจอปัญหามากมาย จนหลายคนก็เบื่อการลงทุนอสังหาฯ ไปเลย เช่น
เลือกทำเลไม่ดี
หาคนเช่ายากผู้เช่าไม่รักษาของ
ห้องเสียหาย
ผู้เช่าจ่ายค่าเช่าล่าช้า
แอบเลี้ยงสัตว์
แอบนำห้องไปปล่อยเช่าต่อ
ผิดสัญญาเช่า
ฯลฯ
จากปัญหาที่กล่าวมา จึงได้มีการลงทุนอสังหาฯ แนวใหม่ ที่เรียกว่า "Investment Property" หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนโดยเฉพาะ ที่จะมีผู้เชี่ยวชาญบริหารให้ โดยที่เจ้าของไม่ต้องมาดูแลหรือจัดการปัญหาจุกจิกข้างต้นเอง
การลงทุนแบบ Investment Property คืออะไร
ในช่วงหลายปีผ่านมาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับความสนใจจึงทำให้ การลงทุนแบบ IP หรือ Investment Property คือ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ได้ถูกกล่าวถึง แม้เป็นโมเดลการลงทุนที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย เพราะปัจจุบันมี โครงการอสังหาฯ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มสร้างโครงการ ทำให้การออกแบบโครงสร้างต่างๆ ให้นักลงทุนได้ประโยชน์เต็มๆ ด้วยการหามืออาชีพ มาคอยดูแลบริหารโครงการ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับนักลงทุนโดยไม่ต้องยุ่งยากเท่ากับการหาทรัพย์ด้วยตนเอง เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์มอบความสบายใจ ทั้งเรื่องความเสี่ยงไม่สูง คาดการณ์ได้ ผลตอบแทนต่อเนื่อง และมีผู้เชี่ยวชาญบริหารให้นั่นเอง
นักลงทุนเพียงลงทุนครั้งเดียว รอรับผลตอบเท่านั้น
ไม่ต้องบริหารจัดการเอง คล้ายกับกองทุนรวม
นักลงทุนจะได้สิทธิ์ความเจ้าของ เพราะได้กรรมสิทธิ์ห้องเช่า สามารถขายต่อได้
บริหารการเช่า รวมทั้งบริหารจัดการทุกอย่างให้ นักลงทุนรอรับผลตอบแทนเท่านั้น
เรียกได้ว่า การลงทุนใน Investment Property นั้น จบทุกปัญหาของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
ลงทุนอสังหาแบบ IP กับโครงการ "Wyndham Nai Harn Beach Phuket"
บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Investment Property (IP) โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้เล็งเห็นทำเลที่โดดเด่นของหาดในหาน จึงได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจสำคัญ Wyndham Hotel Group เครือโรงแรมรีสอร์ทระดับโลกที่เข้ามาบริหารโครงการ มีประวัติการบริหารโรงแรมมากว่า 9,000 แห่ง ห้องพักรวมมากว่า 790,000 ห้อง ใน 80 ประเทศทั่วโลก เป็นแบรนด์โรงแรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก มาพัฒนาโครงการ "Wyndham Nai Harn Beach Phuket"
โครงการ วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต สร้างเป็นอาคารสูง 4 ชั้น แบ่งเป็นห้อง 2 แบบ ขนาดตั้งแต่ 40 ตารางเมตร ขึ้นไป และ 60 ตารางเมตร จำนวนรวม 353 ยูนิต มีทั้งหมด 12 อาคาร ตั้งอยู่บริเวณชายหาดในหาน อยู่ห่างจาก หาดในหานประมาณ 800 ม. เป็นที่ดิน Free Hold ซึ่งนับวันจะหาได้ยากยิ่งในภูเก็ต และเปิดให้นักลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่รายใหญ่เข้าลงทุนได้ 248 ห้องเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท ส่วนห้องที่เหลือเป็นสัดส่วนของนักลงทุนรายใหญ่ จาก CISSA Group การันตีผลตอบแทนในปีที่ 1 และ ปีที่ 2 ให้ 6% และผลตอบแทนในปีที่ 3 ถึง 15 เป็นไปตามผลประกอบการของโรงแรมซึ่งคาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 10% หลังจากที่มีการหักค่าดำเนินการทุกอย่างออกแล้วจะมีการแบ่งส่วนกำไรให้นักลงทุนได้ Sharing Profit เต็ม 100%
นอกจากนักลงทุนที่ลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว นักลงทุนยังสามารถเข้าพักฟรีที่โครงการ วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต 30 วันต่อปี หรือเลือกพักตาม Hotel & Resort ในเครือ RCI ที่มีมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความคุ้มค่าในการมอบทางเลือกให้ผู้ลงทุน อีกทั้งยังสามารถเข้าพักและได้รับส่วนลดที่โรงแรมมากกว่า 30% รวมไปถึงบัตรสมาชิกที่สามารถทำให้เราเข้าถึงสิทธิ์ประโยชน์ได้อีกมากมายโดยคาดว่าโรงแรมจะเปิดให้บริการได้ในเดือนกันยายนปี 2562 และ "Wyndham Hotel Group" เป็นผู้บริหารจัดการ