กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--ไอดีซี ประเทศไทย
ไอดีซีเปิดเผยการคาดการณ์อุตสาหกรรมทางด้านไอทีที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยในปี 2562 และปีต่อไปว่า ภายในปี 2565 จีดีพีของประเทศจะเติบโตเป็น 61% ของ GDP ทั้งประเทศ ซึ่งเกิดจากการผลักดันให้มีการใช้จ่ายด้านไอที ประมาณ 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562 ถึง 2565 ไอดีซีเชื่อว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะนำไปสู่การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านระบบดิจิทัลได้ทำการขับเคลื่อนเข้าไปในตลาดท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นไอดีซีได้เชิญชวนให้ผู้นำทางด้านธุรกิจ ได้นำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่มาใช้เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ องค์กรท้องถิ่นควรก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่เป็นแบบดิจิทัล ซึ่งองค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่มีศักยภาพในการมองเห็นว่าตลาดและลูกค้าจะมีการเปลี่ยนแปลงและบูรณาการตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในใช้งานเทคโนโลยีใหม่รวมทั้งประสิทธิภาพและโมเดลธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
"การแข่งขันเพื่อสร้างนวัตกรรมนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเราคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการนำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่มาใช้ในประเทศ เพราะประเทศไทยกำลังทำพัฒนาในเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยการเปลี่ยนเศรษฐกิจจากประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้นวัตกรรมชั้นสูงมาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อน อย่างไรก็ตามการนำแนวคิดใหม่อาจจะยังคงส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมและผู้นำทางด้านธุรกิจควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจ และนี่คือช่างเวลาที่เหมาะสมที่จะตระหนักว่าอุตสาหกรรมดิจิทัลจะผลักดันให้อุตสาหกรรมอื่น ๆ เติบโตเช่นกัน" นางสาว อัญชลี นักวิเคราะห์ตลาด ซอฟต์แวร์ ประจำไอดีซีประเทศไทยกล่าว
นักวิเคราะห์เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของไอดีซีประเทศไทยยังเปิดเผยถึงแนวโน้มสำคัญที่กำหนดให้นำเสนอโอกาสและความท้าทายแก่ผู้นำด้านไอทีในปี 2562 และในปีถัดไป ดังนี้
#1: Digitalized Economy. ภายในปี 2565 จีดีพีของประเทศไทยกว่า 61% จะถูกทำให้เป็นเศรษฐกิจดิจิทัลโดยมีการเติบโตในทุกอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนแบบดิจิทัลด้วยการนำเสนอ การดำเนินงานและความสัมพันธ์ที่เติบโตถึง 7,200 ล้านดอลล่าสหรัฐ ในมูลค่าการใช้จ่ายทางด้านไอทีในปี 2562 ถึง 2565
#2: Digital-native IT. ภายในปี 2565 การใช้จ่ายด้านไอทีของประเทศไทย 60% จะใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่ 3 เนื่องจากมากกว่า 30% ขององค์กรที่อยู่สภวะแวดล้อมไอทีแบบ "ดั้งเดิม" ได้ทำเปลี่ยนแปลงเพื่อให้กิดการเติบโตเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล
#3: Expand to the Edge. ภายในปี 2565 การปรับใช้ระบบคลาวด์ขององค์กรในประเทศไทยมากกว่า 20% รวมถึงการประมวลผลข้อมูลที่อยู่ใกล้กับแหล่งข้อมูลให้มากที่สุดและ 25% ของอุปกรณ์และระบบปลายทางจะใช้อัลกอริธึม AI
#4: AppDev Revolution. ภายในปี 2565 แอพพลิเคชั่นใหม่ๆของประเทศไทย 70% จะเป็นแบบสถาปัตยกรรมไมโครไซต์ที่ปรับปรุงความสามารถในการออกแบบ แก้จุดบกพร่อง อัปเดตและใช้ประโยชน์จากโค้ดจากภายนอก และ25% ของแอพพลิเคชั่นการผลิตทั้งหมดจะเป็นระบบคลาวด์
#5: New Developer Class. ภายในปี 2567 นักพัฒนามืออาชีพรุ่นใหม่ที่ผลิตรหัสโดยไม่มีสคริปต์ที่กำหนดเอง และจะขยายจำนวนผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้น 20% ในประเทศไทย
#6: Digital Innovation Explosion. จากปี 2018 ถึงปี 2566 ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ/ แพลตฟอร์มใหม่ จำนวนผู้พัฒนาที่เพิ่มมากขึ้น วิธีการที่คล่องตัวมากกว่าเดิมและการใช้รหัสซ้ำจำนวนมาก – 4 ล้านแอปลอจิคัลใหม่ จะถูกสร้างขึ้นในประเทศไทย
#7: Growth Through Specialization. ภายในปี 2565 15% ของการประมวลผลแบบคลาวด์สาธารณะจะใช้โปรเซสเซอร์ที่ไม่ใช่ x86 (รวมถึงควอนตัม) ในประเทศไทย ภายในปี 2565 องค์กรต่างๆจะใช้จ่ายกับแอพพลิเคชั่นในรูปแบบการให้บริการแบบคลาวด์มากกว่าแอพพลิเคชั่นแบบที่ใช้ทั่วไป
#8: AI is the New UI. By 2024, AI-enabled user interfaces and process automation will replace one-third of today's screen-based apps in Thailand. By 2022, 20% of enterprises will use conversational speech tech for customer engagement. ภายในปี 2567 อินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่เปิดใช้งาน AI และกระบวนการอัตโนมัติจะแทนที่หนึ่งในสามของแอพที่ใช้หน้าจอในปัจจุบันในประเทศไทย ภายในปี 2565 ผู้ประกอบการ 20% จะใช้เทคโนโลยีการพูดสนทนาเพื่อการมีส่วนร่วมของลูกค้า
#9: Expanding/Scaling Trust. ภายในปี 2566 25% ของเซิร์ฟเวอร์จะทำการเข้ารหัสข้อมูลที่เหลือและการเคลื่อนไหวต่างๆในประเทศไทยโดยมีวิธีการแจ้งเตือนที่มีความปลอดภัยมากกว่า 20% ซึ่งจะได้รับการจัดการโดยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ 3.5 ล้านคนจะมีอัตลักษณ์ทางดิจิตอลโดยใช้บล็อกเชน
#10: Consolidation vs Multicloud. ภายในปีพ. ศ. 2565 กลุ่มผู้ให้บริการคลาว์ "ที่รองรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่" สี่อันดับแรกจะใช้พื้นที่ 80% ของการติดตั้ง IaaS / PaaS ในประเทศไทย แต่ภายในปี 2566 70% ขององค์กรในประเทศไทย 100 (T100) จะช่วยลดการล็อคอินผ่านเทคโนโลยีระบบคลาวด์ที่หลากหลายและเครื่องมือที่สามารถขับเคลื่อนได้มากกว่าหนึ่งอย่างขึ้นไป
เกี่ยวกับ IDC FutureScapes
IDC FutureScapes ใช้เพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านไอทีและการวางแผนสำหรับองค์กรโดยจัดทำกรอบพื้นฐานสำหรับการประเมินความคิดริเริ่มด้านไอทีในแง่ของมูลค่าต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ FutureScapes ของ IDC ประกอบด้วยข้อกำหนดการตัดสินใจที่ออกแบบมาเพื่อระบุช่วงของปัญหาที่ค้างอยู่ซึ่ง CIO และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาวุโสจะเผชิญหน้ากับวงจรการวางแผนธุรกิจในช่วงเวลา 3 ปีโดยทั่วไป
เกี่ยวกับ IDC
International Data Corporation (IDC) เป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาข้อมูลการตลาดบริการให้คำปรึกษาและกิจกรรมต่างๆสำหรับตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศโทรคมนาคมและเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค ด้วยนักวิเคราะห์มากกว่า 1,100 คนทั่วโลก IDCนำเสนอความเชี่ยวชาญระดับโลกระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและโอกาสทางอุตสาหกรรมและแนวโน้มในกว่า 110 ประเทศ การวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกของ IDC ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีผู้บริหารธุรกิจและชุมชนการลงทุนสามารถตัดสินใจทางเทคโนโลยีบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่สำคัญ IDC ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2507 เป็น บริษัท ในเครือของ International Data Group (IDG) ซึ่งเป็น บริษัท ด้านสื่อข้อมูลและการตลาดชั้นนำของโลกที่เปิดใช้งานและดึงดูดผู้ซื้อเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลมากที่สุด หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ IDC กรุณาเยี่ยมชม www.idc.com ติดตาม IDC บน Twitter ได้ที่ @IDC และ LinkedIn