กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--IR PLUS
XO โชว์ผลประกอบการปี 61 กวาดรายได้ 1,145 ล้านบาท โต 21% และกำไรสุทธิ 222 ล้านบาท โตกระฉูดจากปีก่อน 276% สาเหตุหลักจากการสามารถบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับกลยุทธ์การขยายตลาด รับอานิสงส์ภาพรวมอาหารไทยได้รับความนิยมในตลาดโลก ลั่นปี 62 ทำนิวไฮต่อทั้งรายได้ กำไร ตั้งเป้ารายได้ขยายตัว 10 - 15% ดันกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เพิ่มสินค้าใหม่ เน้นสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสที่มีมาร์จิ้นสูง บอร์ดใจดีปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.75 บาทต่อหุ้น หลังจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.12 บาท รวมทั้งปีจ่ายปันผล 0.87 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายมากกว่า 140% ของกำไรสุทธิ ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12 มี.ค. 62 กำหนดจ่ายปันผล 13 พ.ค.นี้
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ส่งออกรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรส และน้ำจิ้ม รวมทั้ง เครื่องแกง เครื่องประกอบอาหารไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานงวดปี2561 ของบริษัทฯ ( สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561) สร้างสถิติใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 221.90 ล้านบาท พุ่งขึ้น 275.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิอยู่ที่ 59.03 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าและอัตรากำไรขั้นต้น โดยรายได้จากการขายสินค้าอยู่ที่ 1,144.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.94 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายสินค้า 945.05 ล้านบาท โดยสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มเป็นสินค้าหลัก มีสัดส่วน 84.35% -ของรายได้จากการขายทั้งหมด
สำหรับต้นทุนขายอยู่ที่ 710.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.63 % ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้ายู่ในระดับสูงที่ 37.91% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า 29.45% เนื่องจากการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ต้นทุนวัตถุดิบลดลงรวมทั้งการปรับขึ้นราคาสินค้า
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายอยู่ที่ 75.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.99% โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรายได้จากการขายและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 125.35 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 13.34% โดยสาเหตุหลักจากการลดลงของการรับคืนสินค้าที่มีปัญหาจากลูกค้า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และการจัดประเภทค่าใช้จ่ายการผลิตคงที่ของโรงงานแห่งใหม่
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในรูปของเงินสด และกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท ซึ่งเป็นเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในงวดปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.47 บาท และเงินปันผลพิเศษในอัตราหุ้นละ 0.28 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 12 มีนาคมนี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท ดังนั้น เงินปันผลประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ของ XO รวมอยู่ที่อัตราหุ้นละ 0.87
"XO จ่ายเงินปันผลในปีนี้เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น เป็นเงินปันผลจำนวน 0.41 บาท จ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสมส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งผู้รับเงินปันผลจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ เงินปันผลจำนวน 0.12 บาท จ่ายจากกำไรสุทธิที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และเงินปันผลจำนวน 0.22 บาท จ่ายจากกำไรสะสมที่มิได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมมีมติจ่ายปันผลในอัตรา 0.75 บาทต่อหุ้น หลังจากจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (1 มกราคม-30 มิถุนายน 2561) จำนวน 0.12 บาทต่อหุ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นการจ่ายปันผลในงวดปี 2561 สูงกว่า 140% ของกำไรสุทธิ สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจที่แข็งแกร่ง และจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายจิตติพร กล่าว
นายจิตติพรกล่าวต่ออีกว่า ในปี 2561 นับเป็นปีทองของ XO ผลประกอบการดีที่สุดตั้งแต่เปิดบริษัทฯ รายได้สร้างสถิติใหม่ เช่นเดียวกับกำไรสุทธิ มีสัดส่วนยอดขายส่วนใหญ่จากการส่งออกกว่า 99% ไปยัง 60 ประเทศทั่วโลก โดยปริมาณการขายกว่าครึ่งหนึ่งมาจากยุโรป หรือมีสัดส่วนลูกค้าในยุโรป 84% อเมริกา 2% เอเชีย 6% และอื่นๆ 8% โดยส่วนใหญ่ยอดขายสินค้าเป็นสกุลเงินบาท 56% ยูโร 9% ดอลลาร์สหรัฐ 35% จึงไม่มีความกังวลเรื่องค่าเงินบาท ในการส่งผลต่อผลประกอบการบริษัทฯ
สำหรับกลยุทธ์การเติบโตในปี 2562 บริษัทฯ มั่นใจจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10 - 15% จากลูกค้ายินยอมให้ปรับราคาขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2561 และการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบที่คาดว่าจะดีต่อเนื่องในปีนี้ ไปจนถึงปี 2563 หลังจากบริษัทฯ ล็อกราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักทั้งน้ำตาลและกระเทียมที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ควบคู่กับกลยุทธ์การขยายตลาด การเพิ่มสินค้าใหม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า สอดรับกับภาพรวมอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ล่าสุด บริษัทฯ สามารถขยายตลาดไปยังออสเตรเลีย และอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าในอเมริกาเหนือ แคนนาดา และอื่นๆ เพิ่มเติมอีก
วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 130 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ทำโรงงานพริกดองซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต เนื่องจากปัจจุบัน สายการผลิตพริกดองมีขนาดเล็ก และไม่สามารถรับพริกได้อย่างเพียงพอ โดยบริษัทฯ ได้เตรียมที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ (ไม่รวมในงบลงทุน) สำหรับใช้สร้างโรงงาน เตรียมพร้อมรับฤดูกาลพริกที่จะออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ XO ได้พริกที่มีคุณภาพในต้นทุนที่ดี คาดจะแล้วเสร็จในปี 2563 สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือ ใช้ลงทุนไลน์เครื่องแกง และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอื่นๆ เพิ่มเติม