กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
นิสสัน พร้อมผู้นำในโลกธุรกิจ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ สื่อมวลชวน และผู้บริหารนิสสันรวมตัวกันในงาน "นิสสัน ฟิวเจอร์ส"ครั้งที่ 7 ณ เกาะฮ่องกง ระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคมนี้ ภายใต้หัวข้อ "เปลี่ยนแปลงวิถีการขับเคลื่อนและการใช้ชีวิต" โดยผู้นำในสาขาต่าง ๆ จะร่วมหารือเรื่องการเปลี่ยนแปลงความต้องการในการขับเคลื่อน และอนาคตชุมชนเมืองในภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย โดยงาน นิสสัน ฟิวเจอร์ส ปีนี้อยู่ในช่วงการแข่งขัน ฮ่องกง ฟอร์มูล่า-อี 2019
"ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่า 2.1 พันล้านคนหรือคิดเป็น 60% ของประชากรในเมืองทั่วโลก สถานการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันต่อเมืองต่างๆ และระบบการขับเคลื่อนในเมือง งานนิสสัน ฟิวเจอร์สจะสร้างแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเพื่อหาทางออกให้กับสังคม และระบบการขับเคลื่อนในภูมิภาค" ยูตากะ ซานาดะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนียกล่าว "เรามุ่งมั่นที่จะทำให้การขับขี่ที่ปลอดภัย อัจฉริยะ และยั่งยืนเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นโดยใช้นิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้เป็นตัวขับเคลื่อน การเสวนากับภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้จะช่วยเร่งให้เราไปสู่เป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงวิถีการขับเคลื่อนและการใช้ชีวิตได้เร็วยิ่งขึ้น"
ภายในงานนิสสัน ฟิวเจอร์ส จะมีการเปิดเผยข้อมูลงานวิจัยจากฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวนเรื่องการเปลี่ยนแปลงบทบาทของการขับเคลื่อนในเมืองแห่งอนาคต งานวิจัยจะเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการขับเคลื่อนในกรุงเทพ โฮจิมินห์ ฮ่องกง จาการ์ตา กัวลาลัมเปอร์ มะนิลา โซล สิงคโปร์ และซิดนีย์
โดยในงานนิสสัน ฟิวเจอร์ส ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสกับนิสสันลีฟใหม่ซึ่งเป็นไอคอนของนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2010 นิสสัน ลีฟได้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก นิสสันเพิ่งเปิดตัวนิสสันลีฟใหม่ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ไทย และสิงคโปร์ และจะมีการเปิดตัวในตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคต่อไป
ภายหลังจากงานนิสสัน ฟิวเจอร์ส ผู้เข้าร่วมงานสามารถรับชมสุดยอดสมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าได้ในการแข่งขันฮ่องกง ฟอร์มูล่า-อี 2019 โดยในปีนี้ทีมอีแดมส์จากนิสสันได้ส่งรถยนต์เข้าแข่งขันสองคัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีจากรถแข่งสมรรถนะสูงไปไว้ในรถยนต์ที่จำหน่ายในตลาดรวม
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook,Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube