ThaiBMA เผยอานิสงส์ตลาดหุ้นผันผวนส่งผลเงินไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 24, 2008 17:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
ความหวาดกลัวว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะดิ่งลงเหว ส่งผลกระทบตลาดหุ้นไปทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทย แต่กลับส่งผลดีต่อตลาดตราสารหนี้ เผยปีนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้แล้วกว่า 5,000 ล้าน ช่วยให้มูลค่าซื้อขายต่อวันเฉลี่ยเพิ่มกว่า 60% เฉียด 60,000 ล้านบาทต่อวัน
นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเผยว่าในช่วงเริ่มต้นปีนี้เพียงไม่ถึงสามอาทิตย์ นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันกลับเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ไทย โดยซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ในขณะที่ปีที่แล้วทั้งปีขายสุทธิไปกว่า 36,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการซื้อขายรวมนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 60% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยซื้อขายแบบ Outright เฉลี่ยวันละ 58,000 ล้านบาท
สำหรับวิกฤตซับไพร์มที่กำลังเป็นปัญหาลุกลามทั่วโลกอยู่ในขณะนี้นั้น นายณัฐพลเห็นว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบทางลบมากนักต่อตลาดตราสารหนี้ไทย เพราะวิกฤตดังกล่าวทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขยับลงทั่วโลกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เดิมคาดกันว่าน่าจะปรับขึ้นภายในไตรมาสหน้าออกไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดตราสารหนี้และการประมูลพันธบัตรของกระทรวงการคลังที่จะมีออกมาเกือบ 2 แสนล้านบาทในปีงบประมาณนี้
“เป็นไปได้ที่ กนง. อาจไม่ปรับดอกเบี้ยขึ้นเลยก็ได้ในปีนี้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาเริ่มถดถอย เศรษฐกิจของประเทศเล็กๆอย่างประเทศไทยย่อมพลอยกระทบกระเทือนตามไปด้วย ในระยะเวลาอีกไม่นานเชื่อว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะมีแนวโน้มลดลงตามความต้องการที่น้อยลง ประกอบกับแต่ละประเทศต่างก็พยายามพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนกันอย่างเต็มที่ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจึงน่าจะลดลง จนไม่ใช่ปัจจัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกังวลอีกต่อไป ประกอบกับยังจะต้องรักษาระยะห่างของอัตราดอกเบี้ยของไทยกับต่างประเทศไม่ให้มากเกินไป ปัจจัยต่างๆที่กล่าวมานี้อาจจะทำให้ กนง.ไม่ลำบากใจเท่าใดนักในการลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ” นายณัฐพล กล่าว
อย่างไรก็ตามการลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอาจจะไม่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยการให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์มากนัก เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะตกต่ำ สถาบันการเงินย่อมมีความระมัดระวังในการปล่อยกู้มากขึ้น Spread ในการให้กู้เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมักจะกว้างขึ้นกว่าเดิม การลดลงของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพียงเล็กน้อยอาจจะไม่ส่งผลใดๆต่ออัตราดอกเบี้ยการให้กู้ยืมในตลาดเลยก็เป็นได้
ในด้านการลงทุนในตราสารหนี้ นักลงทุนก็อาจมีการปรับมุมมองกันใหม่ หันมาลงทุนตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้น จากเดิมที่ลงทุนกันแบบระมัดระวังกันมาก เนื่องจากเกรงว่าดอกเบี้ยจะปรับขึ้นทำให้ที่ผ่านมากองทุนส่วนใหญ่ลงทุนกันในตราสารระยะสั้นๆเป็นหลัก จะเห็นได้ว่าการประมูลพันธบัตรอายุยาวๆอายุ 10 ปี 20 ปีที่ผ่านมาในเดือนนี้มีผลตอบรับดีมาก อัตราส่วนผู้เข้าประมูลต่อจำนวนที่ประมูล (Bid Coverage Ratio) ขึ้นไปสูงถึง 3.9 เท่า โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.22% ลดลงจากปลายปีที่แล้วถึง 0.7%
อย่างไรก็ตาม นายณัฐพลกล่าวว่า สิ่งที่นักลงทุนไทยจะต้องระมัดระวังก็คือเรื่องความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ โดยเฉพาะหากมีการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนหรือตราสารหนี้ต่างประเทศ เพราะผู้ออกอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มที่ทำให้เศรษฐกิจโลกซะลอตัว ทำให้เกิดการผิดชำระหนี้ได้ ดังนั้นในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ควรเลือกลงทุนเฉพาะในตราสารที่มีความน่าเชื่อถือสูงเป็นหลัก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)
โทร.0-2252-3336 # 119
Email : araya@thaibma.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ