กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ธนาคารนครหลวงไทย
บริษัทประกันชีวิตในเครือธนาคารนครหลวงไทยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทย จำกัด” ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรภายใต้แนวคิด “SCIB Family” พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์เพิ่มขึ้น
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทแมกซ์ประกันชีวิต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคารนครหลวงไทย ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทย จำกัด” หรือ “SIAM CITY LIFE ASSURANCE CO; LTD.” เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นที่จดจำของลูกค้าเหมือนกับบริษัทในเครืออื่นๆ ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “SCIB Family” ซึ่งเป็นการผนึกกำลัง (Synergy) ระหว่างธนาคารและบริษัทในเครือทั้ง 5 แห่ง นำเสนอผลิตภัณฑ์ ทางการเงินที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการร่วมกันขยายฐานลูกค้าและใช้เครือข่ายสาขาธนาคารเป็นช่องทางในการส่งผ่านบริการทางการเงินไปยังลูกค้าเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนเป็นการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างของบริการและเพิ่มขีดความสามารถในการแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจที่จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้กับธนาคารและบริษัทในเครือมากขึ้น
“การเปลี่ยนชื่อของบริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทยครั้งนี้ เป็นการเพิ่มความชัดเจนในการเป็นบริษัทในเครือของธนาคารที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการกับบริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทยว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีความแข็งแกร่งในฐานะที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารนครหลวงไทย รวมทั้งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรสำหรับลูกค้ารายย่อยอีกด้วย และปีที่ผ่านมาธนาคารประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีอัตราเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก (FYP) ผ่านสาขาของธนาคาร เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามากกว่าร้อยละ 50 และมีการพัฒนาพนักงานให้เป็นตัวแทนการขายกรมธรรม์ประกันชีวิตเพิ่มขึ้น” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายสุวิทย์ วัชรอำไพวัณย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ประกันชีวิตนครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า แผนงานหลักในระยะต่อไป คือ การร่วมมือกับธนาคารและบริษัทในเครือพัฒนาการให้บริการทางการเงินเพิ่มมากขึ้น สำหรับการนำเสนอบริการประกันชีวิตผ่านธนาคาร (Bancassurance) ซึ่งเป็นช่องทางขายหลักของบริษัท ก็จะยังคงมุ่งเน้นรูปแบบกรมธรรม์ที่มีจุดเด่นให้ผลตอบแทนที่ดี มีความคุ้มครองสูงและสามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ตลอดจนการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกมากขึ้น