กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN' ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โชว์กำไรสุทธิปี 61 ทำได้ 227.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% หลังรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในอาเซียน แถมฐานลูกค้าทีวีดิจิทัลในประเทศเติบโตเด่น หนุนรายได้รวมเพิ่มเป็น 1,422 ล้านบาท ด้านบอร์ดฯ ชงอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.17 บาทต่อหุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ขณะที่แผนงานปี 62 เดินเกมรุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง หลังขีดความสามารถการผลิตคอนเทนต์พุ่งเป็น 10,000 ชั่วโมง สูงที่สุดในอุตสาหกรรมจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ดันการเติบโต 20%
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันการเติบโตของผลประกอบการได้เป็นอย่างดี โดยมีกำไรสุทธิ 227.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 187.67 ล้านบาท ซึ่งเติบโตทะลุเป้าหมายจากที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 20% ซึ่งเป็นผลมาจากการรุกขยายตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในตลาดภูมิภาคอาเซียนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดในเมียนมาร์ ลาวและกัมพูชา
เช่นเดียวกันกับตลาดในประเทศที่ JKN สามารถขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและกลุ่ม VOD หรือ Video On Demand ที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ส่งผลให้รายได้รวมปีนี้ทำได้ 1,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1,155 ล้านบาท
"เราประสบความสำเร็จในการทำผลงานในปี 61 เติบโตได้มากกว่าเป้าหมายทั้งในแง่รายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถทำตลาดเพื่อสร้างยอดขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์และสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงสะท้อนให้เห็นถึงกำไรสุทธิของ JKN ที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง" คุณจักรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.17 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 19 มีนาคม 2562 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 23 พฤษภาคม 2562
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 20% โดยมีแผนรุกขยายตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม หลังจากที่บริษัทฯ มีศักยภาพการผลิตคอนเทนต์ที่ดีขึ้นจากการลงทุนขยายห้องพากย์และเพิ่มทีมงานบริหารและพัฒนาคอนเทนต์ ทีมพากย์ ทีมตัดต่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นผลให้ JKN สามารถผลิตคอนเทนต์ได้เพิ่มขึ้น 40% หรือคิด 10,000 ชั่วโมงเพื่อรองรับแนวโน้มอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียนในปีนี้ที่เติบโตได้ดี
ทั้งนี้ จากการเพิ่มขีดความสามารถการทำตลาดสอดรับกับแผนธุรกิจของ JKN ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อรองรับกับแผนงานการขยายตลาดการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปในภูมิภาคอาเซียนในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ 666 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตามรอบการส่งลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้แก่ลูกค้าภายครึ่งปีแรกของปีนี้