กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--แสนสิริ จำกัด
จับตาเติบโตต่อเนื่องหลังจากนี้ หลังกำ Presale Backlog ในมือแล้วกว่า 63,500 ลบ. เตรียมเปิดตัว 3 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,700 ลบ. มี.ค.นี้
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โชว์ผลงานปี 2561 ผลประกอบการแกร่งในปีแห่ง Sansiri Best Year Ever กวาดยอดขาย 48,500 ล้านบาทสูงสุดในรอบ 34 ปี โกยรายได้รวม 27,146 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,046 ล้านบาท รายได้ – กำไรพุ่งโดยเฉพาะ ไตรมาสสุดท้ายรายได้รวมโตเกือบ 40% และกำไรสุทธิพุ่ง 188% จากไตรมาสก่อน ขณะที่บริษัทยังโกยรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสทั้งปีอีกถึง 4,311 ล้านบาท รวมถึงกำไรจากกิจการร่วมค้าหรือโครงการภายใต้การร่วมทุนที่พลิกโตสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายถึง 1,312% จับตาการเติบโตจากนี้เป็นต้นไป หลังกำ Presale Backlog ในมือแล้วกว่า 63,500 ล้านบาท เผยเตรียมเปิดตัว 3 โครงการแนวราบ ภายใต้คุณภาพระดับ Best in Class ในทุกระดับราคา มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท ได้แก่ ฮาบิเทีย ยาร์ด ลุยทำเลเจ้าตลาดรามอินทรา บ้านเดี่ยวโครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ชูโมเดลต้นแบบ Dust-free House หรือ "บ้านปลอดฝุ่น" โครงการแรก พร้อมส่งแบรนด์ สิริ เพลส บุกตลาดต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกในเดือน มีนาคมนี้
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึง สรุปผลการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ว่า บริษัทประสบความสำเร็จ ก้าวสู่ปีแห่งที่สุดในทุกด้าน หรือ Sansiri Best Year Ever ทั้งในด้านยอดขายที่สามารถทำได้ถึง 48,500 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในรอบ 34 ปี และเติบโตขึ้น 25% จากปีก่อน รวมถึงบริษัทมีรายได้รวม 27,146 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,046 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีผลประกอบการที่โดดเด่นที่สุดในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งสามารถสร้างรายได้รวมและกำไรพุ่งสูงสุดในรอบปี โดยมีรายได้รวมในไตรมาสสุดท้าย 9,402 ล้านบาท เติบโตขึ้น 37% รวมทั้งมีกำไรสุทธิ 1,046 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 188% จากในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาและเติบโตขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้หลักซึ่งเป็นรายได้จากการขายที่มาจากการโอนโครงการแนวราบ คิดเป็น 70% ของยอดโอนทั้งหมด อาทิ โครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ, โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา, โครงการเศรษฐสิริ พหล – วัชรพล, โครงการเศรษฐสิริ บางนา และโครงการบุราสิริ พัฒนาการ รวมถึงการเริ่มโอนคอนโดมิเนียมโครงการดีคอนโด กำแพงแสน นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสในตลอดทั้งปีที่ผ่านมาสูงถึง 4,311 ล้านบาท รวมถึงกำไรจากกิจการร่วมค้าหรือโครงการภายใต้การร่วมทุนที่พลิกโตสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายถึง 1,312% หรือคิดเป็น 236 ล้านบาท" นายวันจักร์ กล่าว
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการในช่วงไตรมาสแรก บริษัทมีแผนการเปิดตัว 3 โครงการแนวราบภายใต้คุณภาพระดับ Best in Class ในทุกระดับราคา มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท ได้แก่ โครงการฮาบิเทีย ยาร์ด รามอินทรา ซึ่งบริษัทนับเป็นเจ้าตลาดได้รับการตอบรับที่ดีในทำเลนี้ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวแบรนด์ ฮาบิเทีย ที่ประสบความสำเร็จปิดการขายทั้งในโครงการฮาบิเทีย โมทีฟ, ฮาบิเทีย เวนต์ และ ฮาบิเทีย ออร์บิท มาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้โครงการฮาบิเทีย ยาร์ด จะชูจุดขายในความเป็นบ้านเดี่ยวพื้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไป หนึ่งเดียวในย่านรามอินทรา ตั้งอยู่ท่ามกลางความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 20 ยูนิต บนทำเลใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และวงแหวนรอบนอก (ตะวันออก) เตรียมเปิดการขายในวันที่ 30 – 31 มีนาคมนี้ นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดการขายโครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา บ้านเดี่ยวภายใต้คอนเซปต์ Well-being โครงการแรกของแสนสิริที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่แก่วงการอสังหาฯ ด้วยการเปิดตัว"บ้านปลอดฝุ่น" หรือ Dust-free House ครั้งแรกของไทย รวมถึงการส่งทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ สิริ เพลส ที่บริษัทประสบความสำเร็จสร้างปรากฎการณ์ Talk of the town จากการโกยยอดขายถล่มทลาย ส่งผลให้สัดส่วนยอดขายทาวน์เฮาส์ของแสนสิริเติบโตขึ้นถึง 75% จาก 7 โครงการของปีที่ผ่านมา เพื่อตอบรับความต้องการในตลาดต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก โดยเตรียมเปิดตัวที่ ภูเก็ต ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้โดย คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับและไว้วางใจในแบรนด์ "แสนสิริ" รวมทั้งแบรนด์ที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริอย่างต่อเนื่องตลอดมา ส่งผลต่อยอดขายที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกนับจากนี้จากการที่บริษัทมียอดขายที่รอการส่งมอบหรือยอดขายรอรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2565 แล้วถึง 63,500 ล้านบาท