กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลด และการบริโภคภายในประเทศชะลอตัวในไตรมาส 4 ปี 2561 กำไรบริษัทฯ ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง 481.1 ล้านบาท เติบโต 8.9% เทียบปีก่อน
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) ไตรมาส 4 มีรายได้รวม 5,514.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เทียบปีก่อน ในขณะที่กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 1,199.3 ล้านบาท เติบโต 2.1% เทียบปีก่อน และกำไรสุทธิ จำนวน 481.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% เทียบปีที่ผ่านมา
ธุรกิจโรงแรม รายได้รวม 2,465.6 ล้านบาท เติบโต 0.5% เทียบปีที่ผ่านมา โดยมี EBITDA จำนวน 841.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% เทียบปีก่อน โดยอัตราการทำกำไร (% EBITDA Margin) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 34.1% (ไตรมาส 4 ปี 2560: 33.6%) จากผลการดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสำคัญ โดยธุรกิจการจัดงานประชุมสัมมนายังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจอาหาร รายได้รวม 3,048.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% เทียบปีก่อน เป็นผลจากการขยายสาขาจำนวนสุทธิ 67 สาขา โดยอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) เพิ่มขึ้น 6.5% ขณะอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSS) ลดลง 1.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการดำเนินงานแบรนด์มิสเตอร์โดนัท และอานตี้ แอนส์ เป็นสำคัญ ขณะที่อัตราการทำกำไร (% EBITDA Margin) ลดลงเป็น 11.8% (ไตรมาส 4 ปี 2560: 12.2%) เนื่องจากการออกชุดโปรโมชั่นที่มีต้นทุนสูง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบและค่าขนส่ง
สำหรับปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 21,768.2 ล้านบาท เติบโต 7.0% เทียบปีก่อน กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 4,966.4 ล้านบาท เติบโต 5.6% เทียบปีก่อน จากการเติบโตทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร กำไรสุทธิจำนวน 2,177.5 ล้านบาท หรือเติบโต 9.4% เทียบปีที่ผ่านมา
บริษัทฯ ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานทั้งธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2562 โดยธุรกิจโรงแรมประมาณการอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) อยู่ในช่วง 83% - 85% ขณะที่รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPar) เติบโตประมาณ 4% - 6% เทียบกับปี 2561 อย่างไรก็ดี รายได้รวมธุรกิจโรงแรมจะเติบโตในช่วง 2% - 3% เทียบปีก่อน ซึ่งน้อยกว่าการเติบโตของ RevPar เนื่องจากการปิดปรับปรุงโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท สมุย ประมาณ 12 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
ขณะที่ธุรกิจอาหาร คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Same-Store-Sales: SSS) ประมาณ 3%-4% โดยมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การจัดโปรโมชั่น และการโฆษณา ยังคงเป็นส่วนผลักดันการเติบโตเป็นหลัก และจะมีการขยายสาขาสุทธิเพิ่มขึ้น ประมาณ 80-90 สาขา คิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 8%-9% การขยายสาขานี้ ยังไม่นับรวมแบรนด์ใหม่ๆ ที่มีแผนจะพัฒนาในปี 2562