กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนเกษตรกรเตรียมรับมือปัญหาภัยแล้ง แนะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย วางแผนปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ พื้นที่นอกเขตชลประทานควรงดเว้นการปลูกข้าวนาปรังเพราะอาจประสบภาวะขาดแคลนน้ำขณะต้นข้าวกำลังเจริญเติบโต ดำเนินการซ่อมคูน้ำให้เรียบร้อย ไม่นำสัตว์ไปเลี้ยงบริเวณคูน้ำ งดการเผาตอซางข้าวให้ใช้วิธีไถกลบแทน เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ และได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2551 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูหนาว ทำให้สภาพอากาศมีความแห้งแล้ง น้ำในแหล่งเก็บน้ำมีปริมาณลดลง ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เนื่องจากต้องใช้น้ำในการเพาะปลูก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแนะเกษตรกรเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้ง วางแผนการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำต้นทุน เลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย เช่น พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด ถั่วลิสง มันสำปะหลัง เป็นต้น งดเว้นการปลูกข้าวนาปรัง เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดแคลนน้ำในช่วงที่ต้นข้าวกำลังเจริญเติบโต หากน้ำในแหล่งน้ำยังพอมีควรดำเนินการซ่อมแซมคูน้ำ โดยนำกระสอบทรายมาเสริมคันกั้นน้ำ และทำคันคูส่งน้ำให้กว้างสูงและมั่นคงมากขึ้น เพื่อป้องกันการพังทลาย หมั่นตรวจสอบรูรั่ว รอยแตก รูที่อยู่อาศัยของสัตว์ หากตรวจพบให้รีบปิดรูหรือช่องโหว่ เพื่อไม่ให้น้ำไหลรั่วซึมลงใต้ดินอย่างรวดเร็ว ไม่ควรนำสัตว์ไปเลี้ยงบริเวณคลองหรือคูน้ำ เพราะอาจทำให้คันคูเสียหายได้ หากพื้นที่การเกษตรตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ให้หมั่นติดตามรับฟังข่าวสารจากทางราชการ เพื่อเตรียมวางแผนทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ งดการเผาตอซางข้าวหรือหญ้าแห้งให้ใช้วิธีไถกลบแทน เพื่อป้องกันการเกิดไฟลุกลามที่เป็นสาเหตุทำให้ดินสูญเสียความชุ่มชื้น สุดท้ายนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งส่งผลให้พื้นที่นอกเขตชลประทานต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง กรม ปภ. จึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัดดำเนินการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งปี 2551 โดยให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งระดับจังหวัด/อำเภอ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจและจัดทำบัญชีหมู่บ้าน/ชุมชนที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และเตรียมกำลังคน วัสดุอุปกรณ์ และรถยนต์บรรทุกน้ำเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ส่วนพืชผลทางการเกษตรของประชาชน ได้แจ้งแผนปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2551 รวมทั้งสิ้น 12.83 ล้านไร่ โดยแยกเป็นข้าวนาปรัง 10.03 ล้านไร่ พืชไร่ — ผัก 2.80 ล้านไร่ และได้จัดสรรน้ำเพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจัดลำดับความสำคัญ ดังนี้ เพื่อการอุปโภคบริโภคและการประปา เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพื่อการเกษตรกรรม เพื่อการอุตสาหกรรม จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันวางแผนกิจกรรมการใช้น้ำให้เหมาะสมต่อไป