กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) กางแผนปี 62 เล็งขยายธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองเรือขนส่ง LPG การผลิตถังก๊าซ LPG ร่วมทุนพันธมิตรต่อยอดธุรกิจหลัก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร หนุนยอดรายได้เพิ่ม สร้างฐานธุรกิจแข็งแกร่ง "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" ระบุขอให้มั่นใจนับจากนี้ธุรกิจของ WP จะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2562 ว่า บริษัทฯ เน้นให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจไปสู่ การเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจเข้าลงทุนเพิ่มนอกเหนือจากธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) คือ กองเรือขนส่ง LPG การผลิตถังก๊าซ LPG คลังเก็บและบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวแห่งใหม่ และการร่วมกับ บจก.ไทยแก๊สเพื่อขยายฐานลูกค้า
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนใหม่ (CLMV) อาทิ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากมองว่ากลุ่ม CLMV เป็นตลาดที่ยังขยายตัวได้อีกมาก เพราะยังมีความต้องการใช้ก๊าซ LPG ค่อนข้างสูง ทั้งในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม ปัจจุบัน WP มีส่วนแบ่งการตลาดยอดขายก๊าซในประเทศ ภายใต้แบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" เป็นอันดับ 2 หรือคิดเป็น 18% โดยจะทำให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและมั่นคงอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
นางสาวชมกมล กล่าวต่อถึง แนวโน้มปริมาณการขายก๊าซ LPG ปี 2562 ของบริษัทฯ คาดว่าจะอยู่ในระดับ 840,000 ตัน ใกล้เคียงกับปี 2561 โดยประเมินการใช้ก๊าซ LPG ในภาคขนส่งน่าจะหดตัวราว 3-5% ส่วนการใช้ภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมน่าจะเติบโตได้ประมาณ 3-5%
"กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและมั่นคงตามแผนยุทธศาสตร์ในการเป็นผู้ประกอบการด้านธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทฯ พร้อมลุยต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจ ให้ครอบคลุม ครบวงจร จากปัจจุบันมีเพียงธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LGP จึงขอให้มั่นใจว่า WP จะสามารถรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว" นางสาวชมกมลกล่าวในที่สุด