กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่
CCP มองอุตสาหกรรมคอนกรีตปี 62 ทรงตัวคาดเลือกตั้งชัดเจน หนุนงานเมกะโปรเจกต์ ชูกลยุทธ์เพิ่มมาร์จิ้น เน้นธุรกิจโมเดลใหม่ พัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 2,500 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พัฒนาผลิตภัณฑ์ รักษาแบ็กล็อก 2,000 ล้านบาท เผยผลประกอบการปี 61 รายได้รวม 2,481 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 72.08 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.010 บาท
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปีนี้มีแนวโน้มทรงตัว โดยแม้จะมีการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อาทิ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรม ทยอยดำเนินงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานถนน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ยังรอความชัดเจนของการเลือกตั้ง คาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรือผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาลงทุนอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับเป้าหมายการเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20% โดยแผนการดำเนินงานปีนี้มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ให้สามารถรองรับ งานโครงสร้างพื้นฐาน งาน Landscape ได้อย่างหลากหลาย ขยายฐานลูกค้าใหม่ออกไปทั่วประเทศ และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยเน้นธุรกิจโมเดลใหม่พร้อมปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธภาพการผลิต
ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60% โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นายอาทิตย์ กล่าวต่อไปถึง ผลประกอบการตามงบเฉพาะกิจการ CCP ปี 2561 ว่า มีรายได้รวม 1,565 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 1,561 ล้านบาท และมีกำไรเฉพาะกิจการ 7.36 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรเฉพาะกิจการ 51.59 ล้านบาท เนื่องจากปี 61ไม่มีการจ่ายปันผลจากบริษัทในเครือ
สำหรับผลประกอบการจากงบการเงินรวม มีรายได้ 2,398.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,340.31 ล้านบาท จำนวน 57.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.48 % และมีขาดทุนสุทธิ จำนวน 72.08 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิจำนวน 39.22 ล้านบาท เนื่องมาจากการตั้งสำรองจากบริษัทในเครือ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 0.010 บาท เตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 พิจารณาอนุมัติต่อไป