กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--โรงพิมพ์ตะวันออก
EPCO มาตามนัด โชว์กำไรปี61 เพิ่มกว่า 66% จากงวดเดียวกันปีก่อน แตะ 343 ล้านบาท "หรือหุ้นละ 0.41 บาท" ทุบสถิติสูงสุดประวัติการณ์ เนื่องจากเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าและโรงพิมพ์ที่บริษัทเข้าลงทุน ขณะที่บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 0.10 บาท "ยุทธ ชินสุภัคกุล" ประธานกรรมการ ประเมินแนวโน้มปี62 รายได้ก้าวกระโดดกว่า 50% ลุ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง อานิสงส์โรงไฟฟ้าโซลาร์"ฟูเยี้ยน"ที่เวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 109.76 MW โดยมีกำหนด COD กลางปีนี้ และโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นอีก 21 MW พร้อมรับรู้รายได้ธุรกิจโรงพิมพ์ WPS เต็มปี และการผลิตกล่องลูกฟูกเพิ่ม ช่วยผลักดันการเติบโต
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66%จากงวดเดียวกันปีก่อน และถือว่าเป็นการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากงวดเดียวกันปีก่อน
ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น โดยมาจากการที่โรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่นโครงการ Kurihara 1 ขนาดกำลังการผลิต 11.68 เมกะวัตต์ เริ่มจำหน่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ทำให้สามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/61 อีกทั้งยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน SSUT และPPTC ขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปี และกำไรจากโรงพิมพ์ WPS
นายยุทธกล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในปี2562 บริษัทฯคาดว่าจะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยรายได้น่าจะเติบโตกว่า 50%จากปีก่อน ขณะเดียวกันกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้า และบรรจุภัณฑ์
โดยปีนี้ บริษัทฯ จะจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมอีก 131 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฟูเยี้ยน ที่ประเทศเวียดนาม มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 109.76 เมกะวัตต์ มีกำหนด COD ได้ในกลางปีนี้ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 21 เมกะวัตต์ คาดจะ ทยอย COD ได้ตั้งแต่เดือนก.ค.2562 ดังนั้นจะทำให้บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโดยรวมอยู่ที่555 เมกะวัตต์ จากปี 2561 อยู่ที่ 424 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนามนั้น EPCO ถือหุ้นในสัดส่วน 65% ร่วมกับ บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ถือหุ้น 25% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นพันธมิตรท้องถิ่นในเวียดนาม
ในส่วนของ ธุรกิจโรงพิมพ์ หลังจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้น บริษัท ดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) จำกัด หรือWPS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ คิดเป็นเงินลงทุน 407 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถบันทึกรายได้ และกำไรสุทธิในปีนี้ได้เต็มปี ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาทจากธุรกิจโรงพิมพ์ และกล่องลูกฟูก ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date)ในวันที่ 15 มีนาคม 2562 และวันที่จ่ายปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 โดยเตรียมจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 เมษายน 2562 เวลา 11.00 น. เพื่อพิจารณาอนุมัติ