กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ยูนิเซฟ
ประเทศไทยแถลงความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟในการเป็นแหล่งข้อมูลของโลกด้านการยุติการแพร่เชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก โดยพร้อมแบ่งปันประสบการณ์และความสำเร็จในการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายนี้ต่อไป เมื่อวานนี้
การประกาศความร่วมมือครั้งนี้ หรือ South-South Cooperation on Elimination of Mother-to-Child Transmission (EMTCT) of HIV and Syphilis จัดขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ในกรอบความร่วมมือใต้-ใต้ (ความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา) และไตรภาคี ทั้งสามหน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุนการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในด้านสาธารณสุขและอนามัยแม่และเด็กกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค ผ่านการดำเนินงานหลากหลายรูปแบบ เช่น การฝึกอบรม การลงพื้นที่ศึกษาดูงาน และการให้คำปรึกษา เพื่อช่วยสนับสนุนให้นานาประเทศสามารถยุติการแพร่เชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูกต่อไป
ในพ.ศ. 2559 ประเทศไทยได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลกว่า สามารถยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ และล่าสุดได้รับการรับรองว่า ยังคงรักษาสถานะนี้ไว้ได้จนถึงปัจจุบัน
ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรก ๆ ของโลก และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย ที่สามารถลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าร้อยละ 2 ได้
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข อัตราการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกในประเทศไทยลดลงจากร้อยละ 10.3 ในพ.ศ. 2546 เหลือเพียงร้อยละ 1.68 ในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก การยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้สำเร็จ หมายถึงการที่อัตราดังกล่าวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าร้อยละ 2
บรรยายใต้ภาพ
นางสาวบีนา กุลติพารามบิล (ซ้าย) หัวหน้าฝ่ายเอชไอวีและการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของวัยรุ่น องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร (กลาง) รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และแพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร (ขวา) อธิบดีกรมอนามัย ณ งานแถลงความร่วมมือด้านการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก (เครดิตภาพ: ยูนิเซฟ/บัณฑิต โชติสุวรรณ.)