กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง
WPH พร้อมเปิดให้บริการโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จ.กระบี่ ในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ประเดิมเฟสแรกขนาด 59 เตียง ด้าน"เชน เหล่าสุนทร"รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการคึกคัก ประเมินช่วยเพิ่มรายได้ปีละประมาณ 150 ล้านบาท คาดใช้เวลาไม่เกินปี 2563 ถึงจุดคุ้มทุน เตรียมแผนลุยเฟสสองต่อทันที ขณะที่แผนธุรกิจปีนี้ ตั้งเป้ารายได้โตเกิน 10% ลุ้นทุบสถิติสูงสุดอีกครั้ง มั่นใจการท่องเที่ยวหนุนปริมาณลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น
นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการเงิน บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2562 เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งการให้บริการในเฟสแรกเริ่มต้นที่ขนาด จำนวน 59 เตียง โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯ ปีละ 150 ล้านบาท
"บริษัทฯประเมินว่า หากการใช้บริการมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินปี 2563 ก็สามารถถึงจุดคุ้มทุนแล้ว จากเงินลงทุนไปประมาณ 450 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯ อาจจะพิจารณาขยายพื้นที่การให้บริการของโรงพยาบาลอ่าวนางในเฟส 2 ได้ในทันที หากมีการใช้บริการที่ดี โดยสามารถขยายขนาดเพิ่มได้อีก 40-50 เตียง" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
นายเชนกล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือทะลุ 800 ล้านบาท มีโอกาสที่จะทุบสถิติสูงสุดอีกครั้ง เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี จากนักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลเติบโตมากขึ้นประมาณ 20% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการใช้บริการส่วนใหญ่จะเข้ามารักษาโรคทั่วไปมากกว่าโรคเฉพาะทาง
สำหรับความสามารถทำกำไรน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทสามารถรักษาประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดีจะช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯมีงบลงทุนไม่เกิน 80 ล้านบาท โดยจะไม่มีการใช้เงินลงทุนขนาดใหญ่ แต่จะเน้นการปรับปรุงและขยายอาคารโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง
ส่วนความคืบหน้าของการดำเนินการโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย จังหวัดสุราษฎร์ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental impact assessment) หรือ EIA และคาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2562 ตามแผนงานที่วางไว้