กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์' หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) โชว์ผลการดำเนินงานปี 61 ทำรายได้ 2,675.71 ล้านบาท เติบโต 25% รับทุกกลุ่มธุรกิจให้บริการรถยนต์ให้เช่าขยายตัวได้ตามแผน ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 89.64 ล้านบาท หลังบันทึกค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานทางบัญชีที่มาจากการขยายธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่พอร์ตรถยนต์ให้เช่า
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 มีรายได้รวม 2,675.71ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,141.91 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจการให้บริการรถยนต์ให้เช่าทั้ง ระยะยาว ระยะสั้น รถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ และรถยนต์ให้เช่าที่คิดค่าบริการตามจริง (asap GO) โดยกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำสัดส่วนรายหลักกว่า 77% ของรายได้รวม จากฐานลูกค้ารายเดิมที่ต่อสัญญาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสบความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย
ขณะที่กลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นเช่นกัน หลังจาก ASAP ขยายช่องทางการจองรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวและให้บริการเช่ารถยนต์ระดับโลก เช่น booking.com rentalcars.com ZuzuChe และ CTrip ทำให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยงต่างชาติจากยุโรปและอเมริกา และลูกค้าชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับการให้บริการรถยนต์ให้เช่าคิดตามการใช้งานจริงหรือ asap GO ที่ได้ขยายจุดให้บริการรวมถึงเพิ่มจำนวนรถรองรับความต้องการของลูกค้าที่นิยมใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จจากการผลักดันรายได้ดังกล่าว มาจากพอร์ตรถยนต์ให้เช่าของ ASAP ที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดย ณ สิ้นปี 2561 มีพอร์ตรถยนต์ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 15,755 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรถยนต์ให้เช่ารวม 10,559 คัน ส่งผลให้บริษัทฯ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาตามมาตรฐานทางบัญชีที่สูงขึ้น เป็นผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 89.64 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน
"ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจากการสร้างความเข้มแข็งของพอร์ตรถยนต์ให้เช่า ช่วยเพื่อขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจของ ASAP ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสะท้อนได้จากตัวเลข EBITDA ของเราที่ขยายตัวได้มากและชี้ให้เห็นถึงขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจรถยนต์ให้เช่าที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับตลาดรถยนต์ให้เช่าในประเทศไทยที่มีการเติบโตที่ดี" นายทรงวิทย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP กล่าวว่า การดำเนินงานในปี 2562 นั้น บริษัทฯ จะใช้จุดแข็งด้านพอร์ตรถยนต์ให้เช่าเพื่อผลักดันการเติบโตทางธุรกิจในปีนี้ ที่ ASAP มีแผนรุกขยายฐานลูกค้ารายย่อย (B2C) ภายใต้แนวคิด ASAP Mobility Solution เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการรองรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความนิยมการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพิ่มขึ้น โดยเปิดตัวแอพพลิเคชั่น asap ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าและบริการของ ASAP ให้แก่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ การจองรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น และ รถยนต์ให้เช่าตามการใช้งานจริงแบรนด์ asap GO และในอนาคตยังสามารถใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อซื้อรถยนต์มือสองและขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้แล้วทาง IOS และ App Store
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่ต้องการขยายแฟรนไชส์ asap Auto Park แบรนด์ asap Select ให้ครบ 30 จุดภายใน 5 ปี หลังจากได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งแฟรนไชส์แล้ว 5 ราย รองรับการให้บริการถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/62