กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--กบข.
กบข.ปรับกลยุทธ์ลงทุนรับปีหนู ขยายสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ สู้ศึกเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน-ต้นทุนสินค้า
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในปีนี้ว่า กบข. จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดตราสารทุนต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดตราสารทุนเอเชีย ที่จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 20 จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายคณะกรรมการการลงทุน กบข. ในการสร้างความสมดุลย์และผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จึงจำเป็นต้องมีการการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็จะทยอยปรับลดสัดส่วนการลงทุนการลงทุนในตราสารหนี้ลง โดยคาดว่าปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมในปี 50 ที่ร้อยละ 2.2 เป็นร้อยละ 3.5 - 4 ในปี 2551 ตามราคาน้ำมันและต้นทุนราคาสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
การลงทุนในต่างประเทศของ กบข.จะเน้นไปที่การลงทุนในตราสารทุนทั่วโลกเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังจะมีการกระจายไปในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โลกผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โลก ( Global REIT) ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับร้อยละ 7-8 ต่อปี และส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารต่างประเทศโดยรวมในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 6-7
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ กบข. ได้วางรากฐานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมาคือ ระบบบริหารความเสี่ยงโดยเฉพาะสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเงินที่นำไปลงทุนจะมีการบริหารที่สุขุมรอบคอบ และระมัดระวังภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่ดี ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ลงทุนในตราสารต่างประเทศในสัดส่วนร้อยละ 12.38 โดยแบ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 8.24 ตราสารทุนต่างประเทศร้อยละ 4.14 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ กบข. ปลายปี 2550 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 370,000 ล้านบาท
เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวอีกว่าการที่ กบข. มีนโยบายลงทุนต่างประเทศ มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าการลงทุนในประเทศไทย ให้ผลตอบแทนไม่ดี หรือเศรษฐกิจไทยไม่ดี แต่หัวใจสำคัญของการลงทุนต่างประเทศคือ การกระจายความเสี่ยงการลงทุน ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ การลงทุนในตลาดตราสารทุนบ้านเรามีความผันผวนมากกว่าเมื่อเทียบกับตลาดตราสารทุนต่างประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th