กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--BSA
บีเอสเอ | พันธมิตรซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) ขอแสดงความยินดีกับกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมและรัฐบาลไทย ในกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีผลให้ร่าง พ.ร.บ. นี้ เข้าสู่กระบวนการเพื่อการบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป กรอบการทำงานเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ที่มีความยืดหยุ่นที่เพียงพอ ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเสี่ยง และสอดคล้องกับมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติสากลที่ดี จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นที่สำคัญในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างเต็มรูปแบบในเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาและการนำเอาบริการและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมาใช้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายและลำดับความสำคัญของนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยตรง
"การบัญญัติกฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแสดงให้เห็นก้าวที่สำคัญต่อการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ ว่าสามารถไว้วางใจและรับประโยชน์สูงสุดจากนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) ภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นภัยคุกคามระดับโลก การรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าวจึงเป็นสิ่งจำเป็น บีเอสเอขอชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลจากภาคเอกชนและผู้มีส่วนร่วมอื่นๆ ในการพัฒนากฎหมายฉบับนี้ และเราสนับสนุนให้มีการสื่อสารที่เปิดกว้างและการหารือกับภาคเอกชน รวมถึงบริษัทระดับโลก ในโอกาสต่อไป" จาเร็ด แร็กแลนด์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านนโยบาย บีเอสเอ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว
บีเอสเอพร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยเพื่อแก้ไขความกังวลที่ยังคงมีอยู่ของเราเกี่ยวกับการนำกฎหมายมาใช้ และเพื่อทำให้แน่ใจว่าการพัฒนานโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในโอกาสต่อไป จะสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติสากลที่ดี