กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--ทริปเปิ้ล พี คอนเน็คชั่น
บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ "อิเดมิตสึ" (Idemitsu) และ "ดาฟเน่" (Daphne) ในประเทศไทย จัดงานครบรอบ 50 ปีแห่งความสำเร็จ ประกาศตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย ด้วยความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอด พร้อมทั้งยึดมั่นในแนวทางการเติบโตของธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกส่วนของการผลิต รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ ทั้งคุณภาพอากาศ พลังงานสะอาด และล่าสุดได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ "ฑูตมหาสมุทร" เพื่ออนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลและแนวปะการัง
มร. ยูอิจิ มัตซึยามะ ประธาน บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า "ตลอด 50 ปี แห่งการดำเนินธุรกิจของน้ำมันอพอลโลในประเทศไทย บริษัทฯ ในฐานะตัวแทนบริษัท อิเดมิตสึ โคซัน สามารถมีกำลังการผลิตได้กว่า 70 ล้านลิตรต่อปี ด้วยโรงงานมาตรฐานระดับโลกบนพื้นที่กว่า 48,000 ตารางเมตร ที่จังหวัดชลบุรี โดยน้ำมันอพอลโลได้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักที่สร้างจุดแข็งและเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมมาโดยตลอด คือ นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของน้ำมันอพอลโล ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับส่วนงานวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างสูงสุด"
"ในวันนี้เรามองไปข้างหน้าและวางแผนอนาคตสำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ท่ามกลางโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งกระทบและเป็นความท้าทายของทุกๆ ที่ๆเกี่ยวข้อง และเราพร้อมที่จะสานต่อการให้บริการที่ดีที่สุดสู่ตลาดน้ำมันหล่อลื่นอย่างต่อเนื่อง เรามีแผนอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งมาก สำหรับการเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายในเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในทุกส่วนของการผลิต" นายยูอิจิ กล่าวย้ำ
ดร. จักรกริช วหาวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ ได้ยึดมั่นและพัฒนาเรื่องความรับผิดต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลายๆ เรื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็น
ส่วนหนึ่งของสังคมที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคุณภาพอากาศ ด้วยการหยุดใช้สารคอลลีน และสารคลอโรฟลูโอคาร์บอน (CFC) ที่ส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจกในผลิตภัณฑ์ของเรา และเรายังทำการผลิตน้ำมันหล่อลื่นที่ปราศจากสารสังกะสี รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้ ใช้งานได้นานขึ้นในกระบวนการผลิต บริษัทฯ ยังก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วย การใช้พลังงานสะอาด ทั้งการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และการนำความร้อนกลับมาใช้โดยผ่านระบบไอน้ำ เพื่อผลิตเป็นพลังงานใช้ในกระบวนการผลิตของบริษัทฯ และในปีนี้เราได้เดินหน้านโยบาย "Zero Waste" ในรูปแบบของการขอซื้อคืนน้ำมันที่ใช้แล้วนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นได้"
ในวันนี้ บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการ "ฑูตมหาสมุทร" (SOA: Sustainable Ocean Ambassador) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมการตลาดเกษตรและอาหารแห่งภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค (AFMA: Agricultural and Food Marketing Association for Asia and the Pacific) โดยโครงการ "ฑูตมหาสมุทร" ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อดำเนินการฟื้นฟูดูแลพันธุ์พืช ใต้ทะเล โดยปีที่ผ่านมาได้มีการลงฟื้นฟูท้องทะเล บริเวณเกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี และวางปะการังเทียม ใต้ทะเล ไปแล้วกว่า 120 ชิ้น ให้เป็นที่อยู่อาศัย ที่ป้องกันภัย และเป็นแหล่งอาหารและแพร่พันธุ์ของสัตว์น้ำ ซึ่งปะการังเทียมนั้น ได้รับการออกแบบให้มีรูปร่าง ลักษณะ และขนาดที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณเกาะ ในปัจจุบันการดำเนินงานของโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้จากการมีเต่าทะเล รวมถึง สัตว์น้ำต่างๆ ได้กลับเข้ามาพักอาศัยในบริเวณเกาะมากยิ่งขึ้น
ด้าน ดร. ภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงแนวทางการตลาดของบริษัทฯ ว่า "ผลิตภัณฑ์แบรนด์ "อิเดมิตสึ" (Idemitsu) และ "ดาฟเน่" (Daphne) เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นมาตลอด 50 ปี โดยเรายึดมั่นในจุดแข็งของเราด้านนวัตกรรม เพื่อนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่สร้างความแข็งแกร่งและทำให้บริษัทฯ เติบโตมาตลอด โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในปีนี้ นับว่าอยู่ในช่วงฟื้นตัวและพร้อมจะเติบโตมากขึ้น จากปัจจัยของแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐหลายโครงการ ซึ่งส่งผลดีมาถึงการลงทุนของภาคเอกชนต่อมา"
โดยกลยุทธ์หลัก 5 ปี (พ.ศ. 2562 – 2567) คือการเติบโตอย่างมั่นคงในกลุ่มธุรกิจ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ "อิเดมิตสึ" ซึ่งมีการเติบโตในด้านบวกมาตลอด 5 ปี ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างมาก และ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรม ภายใต้แบรนด์ "ดาฟเน่" ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าจะเป็นผู้จัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรม อันดับ 1 ในปี 2567
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแนวทางในการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเพิ่มเติม โดยการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มธุรกิจเดินเรือเพิ่มขึ้น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ รวมไปถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าโออีเอ็มในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
โดยบริษัทฯ ได้เดินหน้าด้านกลยุทธ์ "Sport Marketing" อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬาและมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย อีกทั้งเป็นหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ IDEMITSU SUPER TURBO, การแข่งขันรถยนต์แบบยิมคาน่า, การสนับสนุนทีมแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ LCR HONDA IDEMITSU และ IDEMITSU HONDA TEAM ASIA ในรายการ MotoGP 2019, การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลชลบุรี สโมสรฟุตบอลไทยฮอนด้า และสโมสรฟุตบอลราชนาวี, การแข่งขันรายการ อิเดมิตสึไทยแลนด์ พาวเวอร์โบ๊ท มหกรรมกีฬาความเร็วทางน้ำ ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
"เรายังคงมุ่งมั่นสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรม โดยตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ตอบทุกความต้องการของลูกค้าได้ พร้อมกับดำเนินนโยบายการพัฒนาบริษัทฯ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้กับสังคมตลอดไป" ดร. ภาวัต กล่าวสรุป