กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--กรมส่งเสริมการเกษตร
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การผสมปุ๋ยเคมีใช้เองตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยถูกต้องตามความอุดมสมบูรณ์ของดินและความต้องการของพืช โดยสามารถปรับเพิ่ม-ลดปริมาณธาตุอาหารตามค่าวิเคราะห์ดินด้วยแม่ปุ๋ยได้ เป็นการนำแม่ปุ๋ยชนิดต่าง ๆ มาผสมกัน สามารถผสมได้ทุกสูตร จากแม่ปุ๋ยเคมีที่นิยมใช้ 3 ชนิด ได้แก่ แม่ปุ๋ยไนโตรเจน สูตร 46-0-0 แม่ปุ๋ยฟอสฟอรัส สูตร 18-46-0 และแม่ปุ๋ยโพแทสเซียม สูตร 0-0-60 โดยไม่ต้องใส่สารตัวเติม เช่น ดินขาวยิบซัมที่ใช้ผสมเพื่อให้น้ำหมักครบ 100 กก. เกิดผลดีคือ เกษตรกรได้ปุ๋ยเคมีตามสูตรที่ต้องการซึ่งเหมาะสมกับดินและพืช เป็นวิธีที่ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ได้ธาตุอาหารจากแม่ปุ๋ยเคมีล้วน ๆ ทำให้ได้ใช้ปุ๋ยเคมีในราคาถูกลง ประหยัดค่าใช้จ่ายในการปั้นเม็ด เนื่องจากปุ๋ยสำเร็จรูปทั้งชนิดปั้นเม็ด และชนิดคลุกเคล้า มีการผลิตหลายขั้นตอน ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสูง และไม่ต้องขนสารตัวเติมที่ไม่ได้ให้ธาตุอาหารพืชลงไปในไร่นาด้วย ตลอดจนตัดปัญหาปุ๋ยปลอมและปุ๋ยไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากการผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง ใช้แม่ปุ๋ย ซึ่งทำปลอมยาก
วิธีการผสมปุ๋ยทำได้ไม่ยาก เพียงเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมปุ๋ย ได้แก่ แม่ปุ๋ย พลั่วหรือจอบ เครื่องชั่ง กระสอบปุ๋ย พลาสติกปูพื้นหรืออ่างผสม จากนั้นชั่งน้ำหนักแม่ปุ๋ยแต่ละชนิดตามน้ำหนักที่ต้องใช้ โดยต้องเลือกแม่ปุ๋ยที่มีขนาดเม็ดใกล้เคียงกัน เพื่อป้องกันปัญหาการแยกตัวของเม็ดปุ๋ย นำแม่ปุ๋ยเทลงบนพื้นที่ปูพลาสติกหรืออ่างผสม โดยเทแม่ปุ๋ยน้ำหนักมากที่สุดก่อน แล้วตามด้วยแม่ปุ๋ยที่มีน้ำหนักรองลงมา ตามลำดับ ผสมคลุกเคล้าด้วยจอบหรือพลั่วให้เข้ากันดี ในกรณีที่เกษตรกรรวมกลุ่มกันและมีความต้องการใช้ปุ๋ยผสมเองในปริมาณมากเพื่อบริการสมาชิกของกลุ่ม อาจใช้เครื่องผสมปุ๋ยหรืออุปกรณ์ที่ดัดแปลงมาใช้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เกษตรกรต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจในการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและการผสมปุ๋ยใช้เอง โดยเกษตรกรสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนในพื้นที่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน เพื่อให้มีความรู้เรื่องดินและปุ๋ยเพิ่มขึ้น จากการดูแลและถ่ายทอดความรู้โดยเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรจนกว่าจะชำนาญในการวิเคราะห์ดินและผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง ทั้งนี้ เมื่อผสมปุ๋ยแล้วควรใช้ให้หมดในคราวเดียว แต่หากจำเป็นต้องเก็บไว้ ต้องใช้ภายใน 15 วัน เพราะปุ๋ยที่ผสมแล้วจะชื้นง่าย
เกษตรกรควรใช้ปุ๋ยเคมีเท่าที่จำเป็น อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาชิกเกษตรกรศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนที่กรมส่งเสริมการเกษตรจัดตั้งขึ้น 882 ศูนย์ สมาชิกที่ปลูกข้าวสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีในนาข้าวได้ ตั้งแต่ร้อยละ 17-51 ขึ้นอยู่กับดิน พันธุ์ข้าว สภาพภูมิอากาศ และราคาแม่ปุ๋ย ในขณะที่พืชอื่น ๆ สามารถลดต้นทุนได้เช่นกันในอัตราที่แตกต่างกันไป