กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--มิชลิน
มิชลิน ผู้สนับสนุนยางรถยนต์อย่างเป็นทางการให้กับการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า FIA Formula E ตั้งแต่เริ่มต้นจัดการแข่งขันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา พาชมการแข่งขันสนามที่ 5 ของฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งถูกจัดขึ้นบริเวณฮาร์เบอร์ ฟร้อนท์ ของฮ่องกง ซึ่งได้รับการปรับเป็นเซอร์กิตเฉพาะกิจในเขตเศรษฐกิจสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมโชว์เคสยางรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดที่ใช้ในการแข่งขัน
ฟอร์มูล่า อี การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งเดียว บนเส้นทางสำคัญของเมืองใหญ่ (สตรีทเซอร์กิต) ในทุกภูมิภาคของโลก โดยสมาพันธ์แข่งรถนานาชาติ (FIA) เพื่อหวังลดการปล่อยมลภาวะที่เกิดจากอุสาหกรรมยานยนต์ โดยนำเสนอผ่านการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถแข่ง Formula E รุ่นแรกเปิดตัวในงาน Frankfurt Motor Show 2013 ใช้แข่งขันตั้งแต่ฤดูกาลแรกจนถึงฤดูกาลที่ผ่านมา โดยที่นักแข่งยังต้องเปลี่ยนรถแข่งระหว่างทำการแข่งขัน จากข้อจำกัดทางเทคโนโลยี กระทั้งล่าสุดในฤดูกาล 2018/2019 มีการเปลี่ยนมาใช้รถแข่งเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีกำลังถึง 250 กิโลวัตต์ (355bhp) สามารถขับขี่อย่างเต็มกำลังตลอดการแข่งขันที่ใช้ระยะเวลา 45 นาที บวกอีก 1 รอบสนาม (1.9-3.4 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสนาม) โดยที่นักแข่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถอีกต่อไป
มิชลิน ให้การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดตั้งแต่ริเริ่มจัดการแข่งขันในปี 2013 เสมือนสนามแข่งขันแต่ละแห่งที่จัดการแข่งขันบนสตรีทเซอร์กิตในเมืองใหญ่ทั่วทุกภูมิภาคของโลกเป็นห้องวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 รุ่นล่าสุดที่ใช้สำหรับการแข่งขันที่ใช้กับรถแข่งฟอร์มูล่า อี ฤดูกาลที่ 5 นี้ มีทั้งขนาดและลายดอกยางที่ใกล้เคียงกับยางที่ใช้กับรถยนต์บนถนนมาก เพราะได้รับการออกแบบจากทีมงานเดียวกัน ทำให้การเรียนรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากการแข่งขันไปสู่ยางรถยนต์ทั่วไปทำได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น
เซิร์จ กริซิน ผู้จัดการการแข่งขัน FIA Formula E ของมิชลิน กล่าวว่า "ในฤดูกาลนี้เราสามารถลดน้ำหนักยางที่ใช้ในการแข่งขันลงได้อีกถึง 25 เปอร์เซนต์ ลดแรงเสียดทานลงได้อีก 16 เปอร์เช็นต์ พร้อมๆกับเพิ่มความทนทานให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังสร้างแรงยึดเกาะอย่างเต็มประสิทธิภาพและสามารถส่งผ่านสมรรถนะบนพื้นผิวทางวิ่งของภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลายทั้งแห้งและเปียก รวมถึงลดปริมาณการใช้ยางหรือแทบไม่ต้องเปลี่ยนยางเลยในแต่ละสนาม (ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละทีม) ซึ่งหมายถึงการลดการใช้พลังงานและทรัพยากรลงตั้งแต่ก่อนขั้นตอนการผลิต เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและคุณสมบัติที่ครบถ้วน สะท้อนแนวคิดการพัฒนายางให้มีสมรรถนะสูงรอบด้าน (Michelin Total Performance) ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้รถในโลกแห่งการรักษาสิ่งแวดล้อมและการเดินทางอย่างยั่งยืน"
ในการแข่งขัน ฟอร์มูล่า อี สนามล่าสุด ที่ฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2562 จัดขึ้นบริเวณ ฮาร์เบอร์ฟร้อนท์ ของฮ่องกง มีผู้ชมจำนวนมากมาเป็นกำลังใจให้กับนักแข่งทั้ง 22 คน จาก 11 ทีมแข่งนานาชาติ ประชันเทคโนโลยีผสานทักษะการขับขี่กันอย่างเข้มข้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจตลอดการแข่งขันกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนครึมฟ้าครึมฝน นับเป็นการพิสูจน์ว่าโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ตปรับตัวให้ก้าวต่อไปในยุคพลังงานสะอาดได้อย่างชัดเจน และเห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในและนอกอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อจะทำให้การเดินทางสัญจรด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นที่ยอมรับและแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะในทุกมิติ
สำหรับ มิชลิน การสนับสนุนฟอร์มูล่า อี และการให้ความสำคัญกับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังขับเคลื่อนซึ่งกำลังได้รับความนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นอีกแนวทางในการคิดค้นนวัตกรรมที่นำไปสู่การผลิตยางที่ใช้กับรถยนต์ในชีวิตประจำวันที่มีสมรรถนะครบถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น จากกระแสโลกที่กำลังให้ความใส่ใจกับการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน บริษัทฯยังคงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้อง ตอบโจทย์ผู้คนที่หันมาสนใจกับรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และมีส่วนร่วมกันการสัญจรในชีวิตประจำวันที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ดาวน์โหลดรูปเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ goo.gl/KuQTda
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 117,400 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิต 121 แห่งใน 17 ประเทศ ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 190 ล้านเส้นในปี 2560 ทั้งนี้ กลุ่มมิชลินได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th