กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา
โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่าปี 2561 ที่ผ่านมามีผลงานการเติบโตตามกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะ 5 ปี ที่ต้องการเพิ่มจำนวนโรงแรมในเครือเป็นสองเท่าภายในปี 2565 เป็นที่น่าพอใจ
ปัจจุบัน เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ท รวม 68 แห่งทั่วโลก แบ่งเป็นในประเทศไทย 45 แห่ง และในต่างประเทศ 23 แห่ง รวม 13,477 ห้องพัก ทั้งนี้โรงแรม 39 แห่งเปิดให้บริการแล้ว และอีก 29 แห่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา เซ็นทาราได้เพิ่มจำนวนโรงแรมในพอร์ตอีก 10 แห่ง หรือ 1,294 ห้องพัก ซึ่งคืบหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ที่ต้องการมีจำนวนโรงแรม 134 แห่ง ภายในปี 2565 เซ็นทาราได้นำเอากลยุทธ์หลากหลายแบรนด์เข้ามาใช้เพื่อขยายธุรกิจ และคาดว่าจะได้เห็นโรงแรมแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีความต้องการแตกต่างกัน
มาร์คแลนด์ เบลคล๊อค รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า "กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เซ็นทาราได้ชูประสบการณ์การพักผ่อนตามแบบฉบับความเป็นไทยไปยังทั่วโลกด้วยความเชี่ยวชาญและชื่อเสียงในด้านการผสมผสานการต้อนรับที่มีเสน่ห์แบบไทยเข้ากับที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานระดับโลก เราได้พัฒนาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับคู่ค้า ผู้พัฒนา และเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในตลาดที่แตกต่างหลากหลาย ด้วยการสร้างแบรนด์ใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจ เซ็นทาราตั้งเป้าที่จะสานต่อความสำเร็จที่น่าประทับใจจากอดีตด้วยการสร้างสรรค์โรงแรมและรีสอร์ทแห่งใหม่ที่ยอดเยี่ยมในจุดหมายปลายทางใหม่ที่น่าตื่นเต้นทั่วโลก"
ในส่วนของประเทศไทยจังหวัดกระบี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันเซ็นทารามีโรงแรมอยู่ 3 แห่ง และอีก 2 แห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ได้แก่ เซ็นทารา อ่าวนางบีช รีสอร์ทและสปา กระบี่ ซึ่งมีกำหนดเปิดในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งจะเป็นรีสอร์ทภายใต้แบรนด์มาตรฐานแห่งเดียวบนหาดอ่าวนาง และโรงแรมโคซี่ กระบี่ อ่าวนางบีช ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2563 โรงแรมและรีสอร์ทในจังหวัดกระบี่ทั้ง 5 แห่งจะเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ที่แตกต่างกัน 4 แบรนด์ ตามการจัดวางตำแหน่งทางการตลาด เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและความต้องการด้านประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ เซ็นทารายังมีแผนที่จะเปิด เซ็นทารา ซันไรซ่า เรสซิเดนซ์และสวีท ศรีราชา ในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ดในปีนี้ รวมทั้งแบรนด์ 'โคซี่' โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ที่ออกแบบสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี ที่พักสไตล์เรียบง่าย ราคาคุ้มค่า ก็เป็นแบรนด์ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตภายในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง โดยโรงแรมโคซี่แห่งถัดมาจาก โคซี่ สมุย เฉวง บีช ที่เปิดตัวไปเมื่อธันวาคม 2560 ได้แก่ โรงแรมโคซี่ พัทยา นาเกลือบีช ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการกันยายนนี้ ตามมาด้วย โคซี่ เชียงใหม่ ท่าแพเกท
แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรุกตลาดในต่างประเทศของเซ็นทาราอีกด้วย โดยโรงแรมโคซี่แห่งแรกนอกประเทศไทยซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาก่อสร้าง ตั้งอยู่ในเมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขณะนี้ เซ็นทารามีโรงแรมรวมสี่แห่งที่กำลังเกิดขึ้นในลาว รวมทั้งโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรา บายเซ็นทารา ในเมืองหลวงพระบาง เมืองทางตอนเหนือที่ถูกจัดเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก โรงแรมโคซี่ในเวียงจันทน์ และรีสอร์ททางใต้ของเมืองปากเซ
เอเชียตะวันออกยังคงเป็นพื้นที่ที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับเซ็นทารา โดยปัจจุบันมีทั้งโรงแรมที่เปิดดำเนินงานหรืออยู่ในแผนทั้งในกัมพูชา จีน อินโดนีเซีย ลาว มัลดีฟส์ ศรีลังกา และเวียดนาม บริษัทยังกำลังพิจารณาโอกาส และเจรจาเพิ่มสาขาที่เมืองโอซาก้าในประเทศญี่ปุ่น
อีกภูมิภาคที่เซ็นทารายังคงเดินหน้ารุกอย่างต่อเนื่องคือ ตะวันออกกลาง เริ่มด้วยโรงแรมเซ็นทารา มัสกัต ขนาด 157 ห้อง ในประเทศโอมาน ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 โรงแรมเซ็นทารา เวสต์เบย์ เรสซิเดนซ์และสวีท โดฮา ขนาด 265 ห้อง ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โดฮา ที่จะพร้อมต้อนรับแขกผู้เข้าพักภายในปลายปี 2562 อีกประเทศทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคนี้ยังได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โรงแรมเซ็นทารา เดร่า ไอส์แลนด์ บีช รีสอร์ท ดูไบ โรงแรมขนาดใหญ่ที่มีห้องพักมากถึง 601 ห้อง เตรียมเปิดให้บริการในปี 2563 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของเซ็นทาราในการสร้างมาตรฐานการต้อนรับด้วยไมตรีจิตตามแบบฉบับไทยสู่ตะวันออกกลาง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.centarahotelsresorts.com